สิ่งที่ทําให้เกิดเสียงเรียกว่าอะไร

0 การดู

เสียงคือพลังงานรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ การสั่นสะเทือนนี้จะรบกวนโมเลกุลของอากาศโดยรอบ ทำให้เกิดคลื่นเสียงเดินทางไปยังหูของเรา วัตถุที่เริ่มสั่นสะเทือนเรียกว่าแหล่งกำเนิดเสียง ความถี่ของการสั่นสะเทือนกำหนดระดับเสียงสูงต่ำ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เสียง: กำเนิดจากการสั่นสะเทือน สู่การรับรู้ทางหู

เราได้ยินเสียงรอบตัวตลอดเวลา เสียงนกร้อง เสียงรถยนต์วิ่ง เสียงเพลง แต่เคยสงสัยไหมว่า เสียงเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? คำตอบง่ายๆ คือ “การสั่นสะเทือน” แต่เบื้องหลังความเรียบง่ายนี้ ซ่อนความซับซ้อนที่น่าสนใจไว้มากมาย

ทุกเสียงที่เราได้ยิน ล้วนมีจุดเริ่มต้นจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ วัตถุที่เป็นต้นกำเนิดของเสียง อาจจะเป็นสายกีตาร์ที่ถูกดีด ลำโพงที่สั่นไหว หรือแม้แต่เส้นเสียงของเราเอง เมื่อวัตถุเหล่านี้สั่น พวกมันจะรบกวนโมเลกุลของอากาศที่อยู่โดยรอบ ทำให้โมเลกุลเหล่านี้เคลื่อนที่ไปมาในลักษณะบีบอัดและขยายตัวสลับกัน การเคลื่อนที่แบบนี้จะส่งต่อกันเป็นทอดๆ คล้ายลูกคลื่นในน้ำ กลายเป็นคลื่นเสียงที่เดินทางออกไปทุกทิศทุกทาง

ลองนึกภาพการโยนก้อนหินลงในน้ำ ก้อนหินที่ตกกระทบผิวน้ำเปรียบเสมือนวัตถุที่สั่นสะเทือน วงคลื่นที่แผ่ออกไปรอบๆ ก็คือคลื่นเสียง คลื่นเสียงเหล่านี้จะเดินทางผ่านตัวกลาง ซึ่งอาจเป็นอากาศ น้ำ หรือของแข็ง จนกระทั่งมาถึงหูของเรา

ภายในหู คลื่นเสียงจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่สมองสามารถรับรู้ได้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรา “ได้ยิน” เสียง ความถี่ของการสั่นสะเทือน หรือจำนวนครั้งที่วัตถุสั่นในหนึ่งวินาที จะเป็นตัวกำหนดระดับเสียงสูงต่ำ ยิ่งสั่นเร็ว เสียงก็ยิ่งสูง ยิ่งสั่นช้า เสียงก็ยิ่งต่ำ เปรียบเหมือนการดีดสายกีตาร์ สายที่ตึงกว่าจะสั่นเร็วกว่า ทำให้เกิดเสียงที่สูงกว่า

ดังนั้น สิ่งที่ทำให้เกิดเสียงก็คือ “การสั่นสะเทือน” ของวัตถุ หรือที่เราเรียกว่า “แหล่งกำเนิดเสียง” ซึ่งส่งผ่านพลังงานในรูปของคลื่นเสียง ผ่านตัวกลางต่างๆ จนมาถึงหูของเรา และถูกแปลงเป็นสัญญาณที่สมองแปลความหมายได้ในที่สุด เสียงจึงเป็นมากกว่าแค่สิ่งที่เราได้ยิน แต่เป็นปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึ่ง ที่เชื่อมโยงการสั่นสะเทือนของวัตถุ เข้ากับการรับรู้ทางประสาทสัมผัสของมนุษย์