เบาหวานชนิดที่ 4 คืออะไร

3 การดู

เบาหวานชนิดที่ 4 ยังไม่มีการจำแนกอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีเพียงเบาหวานชนิดที่ 1, 2, LADA, MODY และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพที่ดี การควบคุมน้ำหนัก และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเบาหวานทุกชนิดได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

“เบาหวานชนิดที่ 4”: ความจริงที่ยังไม่มีอยู่จริง และความสำคัญของการป้องกันเบาหวานทุกรูปแบบ

ในโลกที่ข้อมูลข่าวสารไหลบ่าอย่างรวดเร็ว เรามักได้ยินคำศัพท์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และบางครั้งคำศัพท์เหล่านั้นก็สร้างความสับสนได้ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือคำว่า “เบาหวานชนิดที่ 4” ซึ่งอาจทำให้หลายคนสงสัยว่ามันคืออะไร และแตกต่างจากเบาหวานที่เราคุ้นเคยอย่างไร

ความจริงคือ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการจำแนกเบาหวานชนิดที่ 4 อย่างเป็นทางการ ในทางการแพทย์ เราจำแนกเบาหวานออกเป็นชนิดหลักๆ ได้แก่:

  • เบาหวานชนิดที่ 1: เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์สร้างอินซูลินในตับอ่อน ทำให้ร่างกายขาดอินซูลิน
  • เบาหวานชนิดที่ 2: เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักพบในผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินและไม่ออกกำลังกาย
  • LADA (Latent Autoimmune Diabetes in Adults): เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ที่เกิดขึ้นช้าๆ ในผู้ใหญ่ มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในช่วงแรก
  • MODY (Maturity-Onset Diabetes of the Young): เป็นเบาหวานที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้การทำงานของตับอ่อนผิดปกติ มักพบในคนอายุน้อย
  • เบาหวานขณะตั้งครรภ์: เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน

แล้วทำไมถึงมีคำว่า “เบาหวานชนิดที่ 4”?

แม้จะไม่มีการจำแนกอย่างเป็นทางการ แต่การพูดถึง “เบาหวานชนิดที่ 4” อาจเป็นความพยายามในการอธิบายถึงเบาหวานชนิดต่างๆ ที่อาจยังไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้นอย่างชัดเจน หรืออาจเกิดจากความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารที่ไม่ถูกต้อง

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการจำแนกชนิด คือการป้องกัน

ไม่ว่าเบาหวานจะถูกเรียกว่าอะไร หรือถูกจัดอยู่ในประเภทใด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานทุกชนิด โดยสามารถทำได้ดังนี้:

  • ดูแลสุขภาพให้ดี: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันสูง เน้นผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์: การมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 อย่างมาก
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายสามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ ช่วยให้สามารถตรวจพบเบาหวานได้ตั้งแต่ระยะแรก และเริ่มการรักษาได้อย่างทันท่วงที

สรุป

แม้ “เบาหวานชนิดที่ 4” จะยังไม่มีอยู่จริงในทางการแพทย์ แต่การตระหนักถึงความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานทุกชนิด และการดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคเบาหวานได้ในระยะยาว