Kcal กับ Cal ต่างกันยังไง

2 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

เข้าใจง่าย! แคลอรี่ (cal) กับ กิโลแคลอรี่ (kcal) คือหน่วยวัดพลังงานในอาหาร แต่ kcal ใหญ่กว่า (1 kcal = 1,000 cal) ฉลากโภชนาการมักใช้ kcal บอกปริมาณพลังงานที่คุณได้รับจากอาหารแต่ละชนิด ช่วยให้คุณควบคุมน้ำหนักและเลือกอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

Kcal กับ Cal: ไขข้อข้องใจ หน่วยวัดพลังงานในอาหารที่เข้าใจง่าย

หลายครั้งที่เราอ่านฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ แล้วเจอกับคำว่า “แคลอรี่” หรือ “กิโลแคลอรี่” (kcal) แล้วเกิดความสงสัยว่าสองคำนี้แตกต่างกันอย่างไร แล้วมันสำคัญกับการควบคุมน้ำหนักของเราแค่ไหน บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจและทำให้คุณเข้าใจหน่วยวัดพลังงานเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

Cal กับ Kcal: อะไรใหญ่กว่ากัน?

สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ แคลอรี่ (cal) และ กิโลแคลอรี่ (kcal) ทั้งคู่เป็นหน่วยวัดพลังงาน แต่มีขนาดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดย 1 กิโลแคลอรี่ (kcal) มีค่าเท่ากับ 1,000 แคลอรี่ (cal)

พูดง่ายๆ ก็คือ Kcal เป็นหน่วยที่ใหญ่กว่า Cal มากๆ ลองนึกภาพว่า Cal เป็นเหรียญบาท ส่วน Kcal เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท ที่มีมูลค่ามากกว่าเยอะ

ทำไมต้องมีทั้งสองหน่วย?

ในทางวิทยาศาสตร์ แคลอรี่ (cal) คือปริมาณความร้อนที่ใช้ในการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำ 1 กรัม ให้สูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม พลังงานที่ร่างกายเราได้รับจากอาหารมีปริมาณมาก การใช้หน่วยแคลอรี่ (cal) จะทำให้ตัวเลขเยอะและซับซ้อนเกินไป ดังนั้น จึงนิยมใช้ กิโลแคลอรี่ (kcal) ซึ่งเป็นหน่วยที่ใหญ่กว่า เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารและคำนวณ

แล้วในชีวิตประจำวัน เราควรสนใจหน่วยไหน?

โดยส่วนใหญ่แล้ว ฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์อาหารที่เราเห็นกันมักจะระบุปริมาณพลังงานเป็น กิโลแคลอรี่ (kcal) ไม่ใช่ แคลอรี่ (cal) ดังนั้น เวลาที่เราอ่านฉลากเพื่อดูปริมาณพลังงานในอาหาร เราจึงควรมองหาหน่วย Kcal เป็นหลัก

ทำไมการเข้าใจเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Cal กับ Kcal และการอ่านฉลากโภชนาการอย่างถูกต้อง จะช่วยให้เราสามารถ:

  • ควบคุมน้ำหนัก: รู้ว่าอาหารแต่ละชนิดให้พลังงานเท่าไหร่ และวางแผนการกินให้เหมาะสมกับเป้าหมายในการลด, เพิ่ม หรือรักษาน้ำหนัก
  • เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: เปรียบเทียบปริมาณพลังงานและสารอาหารอื่นๆ ในอาหารแต่ละประเภท เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับร่างกาย
  • คำนวณปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน: เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้รับพลังงานเพียงพอต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

สรุปง่ายๆ:

  • Cal (แคลอรี่): หน่วยวัดพลังงานที่เล็กกว่า
  • Kcal (กิโลแคลอรี่): หน่วยวัดพลังงานที่ใหญ่กว่า (1 kcal = 1,000 cal)
  • ฉลากโภชนาการส่วนใหญ่ใช้ Kcal: ดังนั้น ควรมองหาหน่วยนี้เมื่อต้องการทราบปริมาณพลังงานในอาหาร

หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ Cal และ Kcal ได้อย่างกระจ่างแจ้ง และทำให้คุณสามารถเลือกรับประทานอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว