UV ตอนไหนแรงสุด

รู้ทันรังสี UV: ช่วงเวลาไหนอันตรายที่สุด? ปกป้องผิวอย่างไรให้ได้ผล

แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าอาจให้ความรู้สึกอบอุ่นและสดชื่น แต่เบื้องหลังความสบายนั้นแฝงไปด้วยอันตรายจากรังสีอัลตราไวโอเลต หรือ UV ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า การรู้เท่าทันช่วงเวลาที่รังสี UV มีความเข้มข้นสูงสุด จึงเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องผิวจากภัยร้ายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่ารังสี UV จะมีอยู่ตลอดทั้งวัน แต่ช่วงเวลาที่ความเข้มข้นสูงสุด และเป็นอันตรายต่อผิวมากที่สุด คือ ระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น. ในช่วงเวลานี้ ดวงอาทิตย์อยู่สูงที่สุดบนท้องฟ้า ทำให้รังสี UV ต้องเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศโลกน้อยลง ส่งผลให้ปริมาณรังสี UV ที่ตกกระทบผิวเรามีความเข้มข้นสูงกว่าช่วงเวลาอื่นๆ และแม้ในวันที่เมฆครึ้ม รังสี UV ก็ยังสามารถทะลุผ่านเมฆลงมาได้ถึง 80% ดังนั้น อย่าชะล่าใจแม้ในวันที่ฟ้าไม่สดใส

นอกจากช่วงเวลาแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ก็มีผลต่อความเข้มข้นของรังสี UV เช่นกัน ได้แก่:

• ฤดูกาล: โดยทั่วไป รังสี UV จะมีความเข้มข้นสูงสุดในช่วงฤดูร้อน และลดลงในฤดูหนาว
• สถานที่: ยิ่งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ยิ่งได้รับรังสี UV มากกว่าพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไป เช่นเดียวกับพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล เช่น ภูเขา ก็จะได้รับรังสี UV มากกว่าพื้นที่ราบ
• พื้นผิวสะท้อนแสง: พื้นผิวบางอย่าง เช่น หิมะ ทราย และน้ำ สามารถสะท้อนรังสี UV ได้ ทำให้เราได้รับรังสี UV มากขึ้น แม้จะอยู่ในร่มก็ตาม

การป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00 น. – 16.00 น. เท่านั้น แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัด:

• ทาครีมกันแดด: เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะหลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก
• สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด: เลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนา สีเข้ม และปกปิดผิวได้มากที่สุด
• สวมหมวกปีกกว้าง: ช่วยปกป้องใบหน้า คอ และหนังศีรษะจากแสงแดด
• สวมแว่นกันแดด: เลือกแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100% เพื่อปกป้องดวงตาจากอันตรายของแสงแดด
• กางร่ม: เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดการสัมผัสกับรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดูแลและปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญ อย่ารอให้เกิดปัญหาผิวเสียก่อน ค่อยหันมาใส่ใจ เริ่มต้นดูแลผิวตั้งแต่วันนี้ เพื่อผิวสุขภาพดีในระยะยาว