UVA UVB UVC คืออะไร

0 การดู

รังสียูวี 3 ชนิด: UVA ทำร้ายผิวลึก เร่งริ้วรอย; UVB จำเป็นต่อวิตามินดี แต่ทำให้ผิวไหม้และ DNA เสียหาย; UVC ถูกดูดซับในชั้นบรรยากาศ จึงไม่เป็นภัยโดยตรงต่อผิวหนังบนพื้นโลก การป้องกันแสงแดดจึงสำคัญต่อสุขภาพผิว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์ แม้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีผลกระทบต่อผิวหนังของเราอย่างมาก รังสี UV แบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลักๆ คือ UVA, UVB และ UVC ซึ่งแต่ละชนิดมีความยาวคลื่นต่างกัน และส่งผลต่อผิวแตกต่างกันไป การทำความเข้าใจความแตกต่างของรังสี UV แต่ละชนิด จะช่วยให้เราเลือกวิธีป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างเหมาะสม

UVA : ศัตรูตัวร้ายของความอ่อนเยาว์

รังสี UVA มีความยาวคลื่นยาวที่สุดในบรรดารังสี UV ทั้งสามชนิด สามารถทะลุผ่านเมฆ หมอก และกระจกเข้าถึงผิวเราได้ แม้ในวันที่ฟ้าครึ้ม UVA เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระ และจุดด่างดำ เนื่องจากมันสามารถทะลุลงไปถึงชั้นหนังแท้ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงและยืดหยุ่น นอกจากนี้ UVA ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งผิวหนังบางชนิดอีกด้วย

UVB : จำเป็น แต่ต้องระวัง

รังสี UVB มีความยาวคลื่นปานกลาง แม้จะมีความเข้มข้นน้อยกว่า UVA แต่ก็มีพลังงานสูงกว่า UVB เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวไหม้ แดง และแสบ รวมถึงทำลาย DNA ในเซลล์ผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง อย่างไรก็ตาม UVB ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน ร่างกายเราต้องการ UVB ในการสร้างวิตามินดี ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพกระดูกและระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น การรับแสงแดดในเวลาที่เหมาะสมและปริมาณที่พอเหมาะจึงเป็นสิ่งสำคัญ

UVC : ภัยร้ายที่ถูกสกัดกั้น

รังสี UVC มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด และมีพลังงานสูงที่สุดในบรรดารังสี UV ทั้งสามชนิด โชคดีที่ชั้นโอโซนในบรรยากาศโลกสามารถดูดซับรังสี UVC ได้เกือบทั้งหมด ทำให้รังสี UVC ไม่เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อผิวหนังของเราในสภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม การทำลายชั้นโอโซนอาจทำให้รังสี UVC ผ่านลงมาถึงพื้นโลกได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล

การป้องกันแสงแดด : เกราะป้องกันผิวที่สำคัญ

การป้องกันผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพผิว เราควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิว สวมหมวกปีกกว้าง และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสม ควรเลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือเล่นน้ำ

การดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสียหายจากแสงแดดและชะลอวัยของผิวได้เช่นกัน