Zinc Gluconate 75 mg ให้ Zinc กี่กรัม

ยาเม็ดสังกะสี: Zinc Gluconate 75 มก. เทียบกับ Zinc Amino Acid Chelate 75 มก. ให้สังกะสีเท่าไหร่? และเหมาะกับปัญหาสิวหรือไม่?

บทความนี้จะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับปริมาณสังกะสีที่ได้รับจาก Zinc Gluconate 75 มก. และเปรียบเทียบกับ Zinc Amino Acid Chelate 75 มก. ซึ่งมักถูกนำมาใช้ในการบำรุงผิวและรักษาปัญหาสิว เนื่องจากสังกะสีมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพผิว

Zinc Gluconate 75 มก. ให้สังกะสีเท่าไหร่?

Zinc Gluconate เป็นสารประกอบของสังกะสีกับกรดกลูโคนิก โดยทั่วไป Zinc Gluconate 75 มก. จะให้สังกะสีประมาณ 11-12 มก. เปอร์เซ็นต์ของสังกะสีใน Zinc Gluconate แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณภาพและกรรมวิธีการผลิต ดังนั้นควรตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์เสมอเพื่อดูปริมาณสังกะสีที่แน่นอน

Zinc Amino Acid Chelate 75 มก. (ให้ Zinc 15 มก.): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตันหรือไม่?

Zinc Amino Acid Chelate เป็นสารประกอบเชเลตของสังกะสีกับกรดอะมิโน ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า Zinc Gluconate ดังนั้น Zinc Amino Acid Chelate 75 มก. จึงให้สังกะสีถึง 15 มก. ซึ่งมีปริมาณมากกว่า Zinc Gluconate ในปริมาณที่เท่ากัน

การใช้สารประกอบสังกะสีที่มีความสามารถในการดูดซึมสูง เช่น Zinc Amino Acid Chelate อาจมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว เนื่องจากสังกะสีมีคุณสมบัติ:

• ลดการอักเสบ: สังกะสีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบของสิวอักเสบ ทำให้สิวยุบลงเร็วขึ้น
• ควบคุมความมัน: สังกะสีช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้า ลดโอกาสการเกิดสิวอุดตัน
• ส่งเสริมการซ่อมแซมผิว: สังกะสีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง ช่วยเร่งการซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากสิว

สรุป

แม้ว่าทั้ง Zinc Gluconate และ Zinc Amino Acid Chelate จะให้สังกะสี แต่ Zinc Amino Acid Chelate มีประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดีกว่า และมีปริมาณสังกะสีต่อมิลลิกรัมที่สูงกว่า ดังนั้นจึงอาจเหมาะสมกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สังกะสีเพื่อรักษาปัญหาสิว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสังกะสี เพื่อประเมินความเหมาะสมและปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสังกะสี ควรใช้ควบคู่ไปกับการดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี เช่น การทำความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารระคายเคือง

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้และข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ