กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน มีอะไรบ้าง

9 การดู

เจ็บหน้าอกรุนแรง หายใจลำบาก พูดไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน ชาครึ่งซีก แขนขาอ่อนแรง ปวดศีรษะรุนแรงเฉียบพลัน เหล่านี้คือสัญญาณอันตราย! รีบโทร 1669 หรือไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคอันตรายถึงชีวิต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อร่างกายส่งสัญญาณ SOS: รู้จักสัญญาณเตือนภัยฉุกเฉินและวิธีรับมือ

ชีวิตประจำวันแสนเรียบง่าย อาจพลิกผันกลายเป็นภาวะฉุกเฉินได้ทุกเมื่อ การรับรู้และเข้าใจสัญญาณเตือนภัยของร่างกายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การชักช้าเพียงเสี้ยววินาที อาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตาย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสัญญาณเตือนภัยฉุกเฉินที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ และวิธีการรับมืออย่างถูกต้อง

ความเจ็บป่วยฉุกเฉินนั้นมีหลากหลายรูปแบบ แต่มีบางสัญญาณที่บ่งบอกถึงความร้ายแรงและจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เหล่านี้คือสัญญาณที่คุณไม่ควรละเลย:

กลุ่มอาการที่บ่งบอกถึงภาวะอันตรายถึงชีวิต:

  • เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง (Chest pain): อาการเจ็บแน่นหน้าอก บีบรัด หรือเสียดแปลบที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน อาจแผ่ไปถึงแขนซ้าย คาง หรือหลัง ไม่ควรนิ่งนอนใจ แม้จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่เป็นเวลานานก็ควรพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจขาดเลือดหรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย

  • หายใจลำบาก (Shortness of breath): หายใจถี่ หายใจไม่อิ่ม รู้สึกอึดอัด หายใจติดขัด โดยเฉพาะหากมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น เจ็บหน้าอก หรือเวียนหัว ควรไปโรงพยาบาลโดยด่วน อาจเกิดจากภาวะปอดบวม โรคหอบหืดกำเริบ หรือภาวะอื่นๆ ที่เป็นอันตราย

  • พูดไม่ชัด (Slurred speech): พูดไม่รู้เรื่อง พูดติดๆ ขัดๆ หรือพูดลำบาก อาจเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางระบบประสาทที่ต้องการการรักษาอย่างทันท่วงที

  • มองเห็นภาพซ้อน (Double vision): มองเห็นภาพเป็นสองภาพหรือมากกว่านั้น อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเกี่ยวกับดวงตาที่รุนแรง

  • ชาครึ่งซีกหรืออ่อนแรง (Weakness or numbness): ชาหรืออ่อนแรงที่แขน ขา หรือใบหน้าเพียงข้างเดียว เป็นสัญญาณสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ควรเรียกรถพยาบาลหรือรีบไปโรงพยาบาลทันที

  • ปวดศีรษะรุนแรงเฉียบพลัน (Severe headache): ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดตุบๆ หรือปวดอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะหากไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน อาจเป็นสัญญาณของการแตกของหลอดเลือดในสมอง หรือภาวะอื่นๆ ที่อันตราย

เมื่อพบสัญญาณเหล่านี้ อย่าลังเลที่จะ:

  • โทรแจ้ง 1669 หรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันที: พวกเขาจะสามารถส่งทีมแพทย์มาช่วยเหลือคุณได้อย่างรวดเร็ว
  • ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็วที่สุด: หากสามารถเดินทางไปเองได้ ควรไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
  • แจ้งญาติหรือเพื่อนให้ทราบถึงสถานการณ์: เพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือคุณได้

การป้องกันที่ดีกว่าการรักษา: การดูแลสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะฉุกเฉินได้ อย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปีและปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติใดๆ

อย่ามองข้ามสัญญาณเตือนภัยที่ร่างกายส่งมา การรู้จักและเข้าใจสัญญาณเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับภาวะฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มโอกาสในการเอาชนะความเจ็บป่วย รักษาชีวิตคุณและคนที่คุณรักไว้ให้ปลอดภัย