กรณีใดที่ทําให้ระดับฮอร์โมน ADH ในเลือดลดลง
การขาด ADH หรือฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะ นอกจากภาวะเบาจืดและการดื่มน้ำมากเกินไป อาจเกิดจากความเสียหายของไฮโปทาลามัสหรือต่อมใต้สมองจากการบาดเจ็บ การติดเชื้อ หรือเนื้องอก รวมถึงผลข้างเคียงจากยาบางชนิด และความผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบได้น้อย เช่น กลุ่มอาการ Wolfram ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการปัสสาวะบ่อยและมากผิดปกติ
กรณีที่ทำให้ระดับฮอร์โมน ADH ในเลือดลดลง
ฮอร์โมน ADH (Antidiuretic Hormone) หรือที่รู้จักกันในชื่อฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะ โดยปกติแล้วจะหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองเพื่อควบคุมการดูดซึมน้ำกลับคืนในไต ซึ่งช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย หากระดับฮอร์โมน ADH ในเลือดลดลง จะส่งผลให้มีการขับปัสสาวะมากเกินไปและทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ
สาเหตุของระดับฮอร์โมน ADH ที่ลดลง
- ความเสียหายของไฮโปทาลามัสหรือต่อมใต้สมอง:
- การบาดเจ็บ
- การติดเชื้อ
- เนื้องอก
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด:
- ลิเทียม
- ยาขับปัสสาวะ
- แอลกอฮอล์
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม:
- กลุ่มอาการ Wolfram ซึ่งเป็นภาวะที่หายากที่ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทและโรคเบาจืด
- การดื่มน้ำมากเกินไป:
- การดื่มน้ำในปริมาณมากอย่างรวดเร็วสามารถเจือจางระดับฮอร์โมน ADH ในเลือดได้
อาการของระดับฮอร์โมน ADH ที่ลดลง
- ปัสสาวะบ่อยและปัสสาวะมากผิดปกติ
- ปัสสาวะจางใส
- ความกระหายน้ำมาก
- อาการขาดน้ำ เช่น เวียนศีรษะ สับสน เกิดตะคริว
การวินิจฉัย
แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน ADH และตรวจปัสสาวะเพื่อประเมินความเข้มข้นของปัสสาวะ รวมถึงอาจทำการทดสอบการกระตุ้นด้วยน้ำเพื่อตรวจสอบการตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมน ADH
การรักษา
การรักษาระดับฮอร์โมน ADH ที่ลดลงจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิด โดยทั่วไปแล้วอาจรวมถึง:
- การรักษาภาวะที่ทำให้เกิดอาการ เช่น การผ่าตัดเพื่อกำจัดเนื้องอก
- การให้ฮอร์โมน ADH สังเคราะห์ในรูปแบบยาเม็ด ฉีด หรือสเปรย์จมูก
- การจำกัดการดื่มน้ำ
- การจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปอย่างรวดเร็ว
หากคุณสังเกตเห็นอาการของปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะมากผิดปกติ เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
#ระดับadh#ฮอร์โมนลดลง#โรคที่เกี่ยวข้องข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต