กรดไหลย้อนอาการแบบไหนควรไปหาหมอ

กรดไหลย้อน: อาการแบบไหนควรพบแพทย์โดยด่วน?

อาการแสบร้อนกลางอก หรือที่รู้จักกันว่า “เรอเปรี้ยว” เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อน อย่างไรก็ตาม อาการบางอย่างอาจบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างเร่งด่วน อย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นแค่กรดไหลย้อนธรรมดา เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้

สัญญาณเตือนที่ควรไปพบแพทย์ทันที:

• อาการแสบร้อนกลางอกรุนแรง และเป็นบ่อย: หากอาการแสบร้อนกลางอกรุนแรงมาก เกิดขึ้นบ่อย หรือเป็นต่อเนื่องแม้จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตแล้ว ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบของหลอดอาหารอย่างรุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
• อาเจียนเป็นเลือด หรือมีสิ่งผิดปกติปนในอาเจียน: อาเจียนเป็นเลือด ไม่ว่าจะเป็นเลือดสด หรือเลือดสีคล้ำคล้ายกากกาแฟ เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงการมีเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบน ซึ่งอาจเกิดจากแผลในกระเพาะอาหาร หลอดอาหารอักเสบรุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
• ถ่ายอุจจาระสีดำคล้ำ หรือมีเลือดปน: อุจจาระสีดำคล้ำเหมือนยางมะตอย หรือมีเลือดปน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจมีเลือดออกในทางเดินอาหาร ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสม
• กลืนอาหารลำบาก หรือรู้สึกเหมือนมีก้อนติดคอ: หากมีอาการกลืนลำบาก หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ อาจเป็นสัญญาณของการตีบแคบของหลอดอาหาร ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากกรดไหลย้อนเรื้อรัง
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ ร่วมกับอาการกรดไหลย้อน อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งหลอดอาหาร
• เจ็บหน้าอกรุนแรง ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น หายใจลำบาก เหงื่อออกมาก: แม้ว่าอาการเจ็บหน้าอกอาจเกิดจากกรดไหลย้อนได้ แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจได้เช่นกัน ดังนั้นหากมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง

นอกจากอาการเหล่านี้ หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ ที่ทำให้คุณกังวล หรือรู้สึกไม่สบายใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย และเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง การตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เช่น การส่องกล้องทางเดินอาหาร จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความรุนแรงของโรค และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ