กระเพาะปัสสาวะอักเสบมีอาการอย่างไร

3 การดู

รู้สึกปวดแสบขัดเวลาปัสสาวะ แม้จะปัสสาวะบ่อยแต่ครั้งละน้อยๆ หรือมีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยร่วมด้วย? อาจเป็นสัญญาณเตือนของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ รีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อย่าปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ: สัญญาณเตือนที่ร่างกายส่ง และสิ่งที่คุณควรรู้

อาการปวดแสบขัดขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้อย หรือแม้กระทั่งอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย… อาการเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่เป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่ร่างกายกำลังบอกคุณว่า “กระเพาะปัสสาวะกำลังมีปัญหา!” และปัญหาที่ว่านั้นอาจเป็น “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ”

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้มักมาจากบริเวณทวารหนักหรือผิวหนังรอบๆ และเดินทางผ่านท่อปัสสาวะเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ การอักเสบนี้เองที่ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น

อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบ:

  • ปวดแสบขัดขณะปัสสาวะ: อาการนี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด และมักเป็นสัญญาณแรกที่ทำให้ผู้ป่วยตระหนักถึงความผิดปกติ
  • ปัสสาวะบ่อย: คุณอาจรู้สึกว่าต้องเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ แม้ว่าปริมาณปัสสาวะในแต่ละครั้งจะน้อยมาก
  • ปัสสาวะไม่สุด: แม้จะเพิ่งออกจากห้องน้ำมา คุณก็อาจรู้สึกว่ายังปัสสาวะไม่สุด และยังคงมีความรู้สึกอยากปัสสาวะอยู่
  • ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย: อาการปวดหน่วง หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณท้องน้อย เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับอาการอื่นๆ
  • ปัสสาวะมีสีขุ่น หรือมีกลิ่นเหม็น: ในบางกรณี คุณอาจสังเกตได้ว่าปัสสาวะมีสีขุ่นผิดปกติ หรือมีกลิ่นที่รุนแรงกว่าปกติ
  • มีเลือดปนในปัสสาวะ (hematuria): แม้จะไม่พบได้บ่อยนัก แต่การมีเลือดปนในปัสสาวะก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการอักเสบที่รุนแรงขึ้น

ทำไมถึงต้องรีบปรึกษาแพทย์:

การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา กระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงกว่าได้ ตัวอย่างเช่น การติดเชื้ออาจลุกลามไปยังไต ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ไต (pyelonephritis) ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ การติดเชื้อเรื้อรังอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อไตในระยะยาว

สิ่งที่ควรทำหากสงสัยว่าตัวเองเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ:

  • ปรึกษาแพทย์: การพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับแบคทีเรียออกจากร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะ: เช่น กาแฟ ชา แอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม
  • ปัสสาวะให้สุดทุกครั้ง: ไม่ควรอั้นปัสสาวะ
  • ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างถูกวิธี: โดยเฉพาะหลังการขับถ่าย

บทสรุป:

อย่ามองข้ามสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งมา กระเพาะปัสสาวะอักเสบแม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็ควรรีบรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน การปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณหายจากโรคได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย กลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข