กรุ๊ปเลือด AB กับ AB- ต่างกันอย่างไร

1 การดู

กรุ๊ปเลือด AB และ AB- ต่างกันที่ปัจจัย Rh (Rh factor) กรุ๊ป AB มี Rh เป็นบวก (Rh+) จึงรับเลือดได้จากทุกกรุ๊ป และให้เลือดได้เฉพาะ AB+ เท่านั้น ส่วน AB- มี Rh เป็นลบ (Rh-) จึงรับเลือดได้เฉพาะกรุ๊ปที่มี Rh- เท่านั้น (A-, B-, AB-, O-) แต่ให้เลือดได้ทั้ง AB+ และ AB-.

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างกรุ๊ปเลือด AB+ และ AB- : มากกว่าแค่เครื่องหมายบวกและลบ

เรารู้จักกรุ๊ปเลือดกันเป็นอย่างดี A, B, AB, และ O แต่ละกรุ๊ปยังแยกย่อยได้อีก โดยมีเครื่องหมายบวก (+) และลบ (-) ต่อท้าย ความแตกต่างนี้ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์เล็กๆ น้อยๆ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการให้และรับเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของกรุ๊ปเลือด AB+ และ AB- ที่มักก่อให้เกิดความสับสน

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างกรุ๊ปเลือด AB+ และ AB- อยู่ที่ ปัจจัย Rh (Rhesus factor) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Rh factor นั่นเอง

  • กรุ๊ปเลือด AB+ (เอบีบวก): หมายความว่าเม็ดเลือดแดงมีแอนติเจน A และ B และ มีแอนติเจน Rh (Rh+) นั่นคือมีปัจจัย Rh อยู่บนผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง

  • กรุ๊ปเลือด AB- (เอบีลบ): หมายความว่าเม็ดเลือดแดงมีแอนติเจน A และ B เช่นกัน แต่ ไม่มี แอนติเจน Rh (Rh-) นั่นคือไม่มีปัจจัย Rh บนผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง

ความแตกต่างนี้ส่งผลโดยตรงต่อการให้และรับเลือด ดังนี้:

การรับเลือด:

  • AB+: สามารถรับเลือดได้จากทุกกรุ๊ปเลือด (A+, A-, B+, B-, AB+, AB-, O+, O-) เนื่องจากไม่มีแอนติบอดีใดๆ ในพลาสมาที่จะไปทำลายเม็ดเลือดแดงจากกรุ๊ปอื่นๆ ทำให้ AB+ ถูกเรียกว่าเป็น “ผู้รับสากล” (Universal Recipient)
  • AB-: สามารถรับเลือดได้เฉพาะจากกรุ๊ปเลือดที่มี Rh- เท่านั้น คือ A-, B-, AB-, O- หากได้รับเลือดจากกรุ๊ปที่มี Rh+ ร่างกายจะสร้างแอนติบอดีต่อต้าน Rh+ ทำให้เกิดการทำลายเม็ดเลือดแดง อันตรายถึงชีวิตได้

การให้เลือด:

  • AB+: สามารถให้เลือดได้เฉพาะกับกรุ๊ปเลือด AB+ เท่านั้น เนื่องจากมีทั้งแอนติเจน A, B และ Rh+ หากให้กับกรุ๊ปอื่นๆ ที่มีแอนติบอดีต่อต้าน A หรือ B หรือ Rh จะเกิดการทำลายเม็ดเลือดแดงได้
  • AB-: สามารถให้เลือดได้กับทั้ง AB+ และ AB- เพราะแม้จะมีแอนติเจน A และ B แต่ไม่มี Rh+ จึงไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านในผู้รับที่มี Rh+

สรุปแล้ว แม้จะดูเหมือนเป็นเพียงเครื่องหมายบวกและลบเล็กๆ แต่ความแตกต่างระหว่าง AB+ และ AB- นั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการให้และรับเลือด การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้การบริหารจัดการเลือดมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือด ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับการให้และรับเลือดเสมอ