การทําCPR ควรทํากี่นาที

2 การดู

ปั๊มหัวใจโดยกดหน้าอกด้วยความลึกประมาณ 5-6 เซนติเมตร ปั๊มเร็วประมาณ 100-120 ครั้งต่อนาที และปั๊มอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 นาที ก่อนหยุดเพื่อตรวจดูว่ามีชีพจรหรือไม่

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

CPR: เวลาที่สำคัญต่อชีวิต – ทำนานแค่ไหนถึงจะช่วยได้?

การทำ CPR หรือการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน เป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรเรียนรู้ เพราะอาจเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยชีวิตผู้ที่หัวใจหยุดเต้นกะทันหันได้ การปั๊มหัวใจอย่างถูกวิธีเป็นหัวใจสำคัญของการทำ CPR และคำถามที่พบบ่อยคือ “ควรปั๊มหัวใจนานแค่ไหน?” บทความนี้จะเจาะลึกถึงระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำ CPR เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ถูกต้องและมั่นใจในการช่วยเหลือผู้อื่น

หลักการพื้นฐานของการปั๊มหัวใจ:

ก่อนจะพูดถึงระยะเวลาที่เหมาะสม เรามาทบทวนหลักการพื้นฐานของการปั๊มหัวใจที่ถูกต้องกันก่อน:

  • ตำแหน่ง: วางส้นมือข้างหนึ่งตรงกลางหน้าอก (บริเวณกระดูกหน้าอก) วางมืออีกข้างทับลงไป ประสานนิ้วเข้าด้วยกัน
  • ท่าทาง: จัดท่าให้แขนเหยียดตรง ไหล่อยู่เหนือหน้าอกของผู้ป่วย
  • ความลึก: กดหน้าอกให้ยุบลงประมาณ 5-6 เซนติเมตร (ประมาณ 2-2.4 นิ้ว)
  • ความเร็ว: ปั๊มด้วยความเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที (ความเร็วนี้คือจังหวะที่เพลง “Staying Alive” ของ Bee Gees)
  • การคลายมือ: ปล่อยให้หน้าอกคืนตัวกลับสู่ตำแหน่งเดิมอย่างเต็มที่หลังจากการกดแต่ละครั้ง

ระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำ CPR:

แนวทางปฏิบัติสากลแนะนำให้ ทำการปั๊มหัวใจต่อเนื่องเป็นเวลา 2 นาที (หรือประมาณ 5 รอบของการปั๊ม 30 ครั้ง สลับกับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง) แล้วจึงหยุดชั่วคราวเพื่อประเมินสัญญาณชีพ นี่คือเหตุผล:

  • ประสิทธิภาพ: การปั๊มหัวใจอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 นาที ช่วยให้เลือดและออกซิเจนไหลเวียนไปยังสมองและอวัยวะสำคัญอื่นๆ อย่างเพียงพอ
  • การประเมินผล: การหยุดชั่วคราวหลัง 2 นาที ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบว่ามีสัญญาณชีพกลับคืนมาหรือไม่ เช่น การไอ การเคลื่อนไหว หรือการหายใจปกติ
  • ป้องกันความเหนื่อยล้า: การทำ CPR เป็นเวลานานอาจทำให้เหนื่อยล้าและประสิทธิภาพลดลง การหยุดพักสั้นๆ ช่วยให้ผู้ช่วยเหลือสามารถฟื้นตัวและรักษาคุณภาพของการปั๊มหัวใจได้

สิ่งที่ต้องพิจารณา:

  • สถานการณ์เฉพาะ: หากมีผู้ช่วยเหลือหลายคน ควรสลับกันทำ CPR ทุก 2 นาที เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้า
  • การช่วยหายใจ: หากคุณได้รับการฝึกอบรมและมีความมั่นใจในการช่วยหายใจ ให้ทำสลับกับการปั๊มหัวใจในอัตราส่วน 30:2 (ปั๊ม 30 ครั้ง สลับกับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง)
  • การใช้เครื่อง AED: หากมีเครื่อง AED (Automated External Defibrillator) ให้รีบนำมาใช้โดยเร็วที่สุด และปฏิบัติตามคำแนะนำของเครื่องอย่างเคร่งครัด

สำคัญที่สุดคือ:

  • อย่าหยุดทำ CPR จนกว่า:
    • ผู้ป่วยจะเริ่มหายใจหรือเคลื่อนไหว
    • มีบุคลากรทางการแพทย์มาถึงและรับช่วงต่อ
    • คุณเหนื่อยล้าจนไม่สามารถทำ CPR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ: การปั๊มหัวใจที่ถูกต้องและต่อเนื่องมีความสำคัญมากกว่าระยะเวลาที่ทำ หากคุณไม่แน่ใจในวิธีการทำ CPR ให้เน้นที่การปั๊มหน้าอกอย่างรวดเร็วและแรง

สรุป:

การทำ CPR อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการที่ถูกต้องและการฝึกฝน การปั๊มหัวใจต่อเนื่องเป็นเวลา 2 นาที แล้วจึงประเมินสัญญาณชีพ เป็นแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำ CPR อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีผู้ช่วยเหลือมาถึง หรือผู้ป่วยเริ่มมีสัญญาณชีพกลับคืนมา การเรียนรู้ทักษะ CPR สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นและความตาย และเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่คุณสามารถมอบให้กับผู้อื่นได้