กินยาลดไข้กี่นาทีออกฤทธิ์

ไข้ขึ้น…กินยาลดไข้เมื่อไหร่ถึงเห็นผล? ความจริงที่คุณควรรู้

ไข้เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกถึงการต่อสู้กับเชื้อโรค การกินยาลดไข้จึงเป็นเพียงการบรรเทาอาการไม่ใช่การรักษาโรคต้นเหตุ ดังนั้น การเข้าใจว่ายาลดไข้แต่ละชนิดออกฤทธิ์อย่างไรจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถรับมือกับไข้ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

หลายคนคงเคยสงสัยว่าหลังจากกินยาลดไข้ไปแล้ว ต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะรู้สึกว่าไข้ลดลง? คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงชนิดของยา ปริมาณที่รับประทาน และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว สำหรับยาลดไข้ที่นิยมใช้กันอย่างเช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือ อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) ซึ่งเป็นยาแก้ปวดและลดไข้ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยา มักจะเริ่มออกฤทธิ์ลดไข้ได้ ภายใน 30-60 นาที หลังจากรับประทาน

อย่างไรก็ตาม ฤทธิ์สูงสุดของพาราเซตามอลจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นฤทธิ์จะค่อยๆ ลดลง โดยทั่วไปแล้ว ฤทธิ์ของยานี้จะคงอยู่ได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า หากไข้ยังไม่ลดลง หรือกลับมาสูงขึ้นอีกภายในระยะเวลาดังกล่าว คุณไม่ควรเพิ่มปริมาณยาเอง แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำ เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คิด หรืออาจเป็นเพราะคุณรับประทานยาไม่ถูกวิธี

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ:

• อย่ากินยาลดไข้เกินขนาด: การรับประทานยาเกินขนาดไม่ช่วยให้ไข้ลดลงเร็วขึ้น แต่กลับอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายต่อตับและไตได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด หรือปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาเสมอ
• เลือกยาลดไข้ที่เหมาะสม: ควรเลือกยาลดไข้ที่เหมาะสมกับอายุและสภาพร่างกาย พาราเซตามอลเหมาะสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก แต่ควรระมัดระวังปริมาณที่ให้กับเด็กเล็ก
• ดื่มน้ำมากๆ: การดื่มน้ำมากๆ ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายและช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ดีขึ้น
• พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการไข้ได้เร็วขึ้น

ไข้เป็นเพียงอาการ ไม่ใช่โรค การรักษาที่ถูกต้องคือการรักษาโรคต้นเหตุ หากไข้สูง มีอาการรุนแรง หรือไข้ไม่ลดลงหลังจากรับประทานยาลดไข้แล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที อย่าปล่อยให้ไข้เป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้