กินอะไรให้หายอาเจียน

14 การดู

การจิบน้ำเย็นๆ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้ ลองน้ำเปล่าเย็นๆ หรือน้ำผลไม้ปั่นผสมน้ำแข็งดู หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัดหรือรสเปรี้ยวจัดเกินไป ควรจิบทีละน้อย และอย่าดื่มน้ำมากเกินไปในคราวเดียว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เคล็ดลับดับอาการอาเจียน: กินอะไรดี? มากกว่าแค่ “น้ำเย็นๆ”

อาการอาเจียนเป็นสัญญาณที่ร่างกายส่งมาบอกว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ ไวรัส หรือโรคอื่นๆ การรู้วิธีจัดการกับอาการอาเจียนอย่างถูกวิธีจึงสำคัญ แม้ว่าการจิบน้ำเย็นๆ จะเป็นวิธีที่คนนิยมใช้ แต่การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญยิ่งกว่า และมีรายละเอียดมากกว่าที่คิด

ขั้นตอนแรก: ฟื้นฟูสมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์

ก่อนอื่นเลย เราต้องเน้นการฟื้นฟูสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายที่สูญเสียไปจากการอาเจียน น้ำเปล่าเย็นๆ อย่างที่กล่าวไปนั้นเป็นตัวเลือกที่ดี แต่การเพิ่มเกลือแร่เล็กน้อยลงไปจะยิ่งช่วยได้มากขึ้น ลองทำน้ำเกลือแร่แช่เย็นเองง่ายๆ ด้วยการละลายเกลือเล็กน้อย (ประมาณ 1/4 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ลิตร) ลงในน้ำเย็น หรือเลือกดื่มน้ำเกลือแร่สำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อก็ได้เช่นกัน การดื่มน้ำมากๆ ทีเดียวอาจทำให้คลื่นไส้มากขึ้น ดังนั้นควรจิบทีละน้อยๆ และสังเกตอาการของตัวเองไปด้วย

อาหารที่เหมาะสม หลังอาการทุเลา:

เมื่ออาการอาเจียนเริ่มทุเลาลง ควรเริ่มทานอาหารที่ย่อยง่าย และไม่กระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้มากขึ้น อาหารเหล่านี้ควรมีลักษณะ:

  • รสจืดและอ่อนๆ: หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เปรี้ยว หรือหวานจัด เน้นอาหารรสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือขนมปังปิ้ง
  • ไม่มันและไม่เลี่ยน: อาหารที่มีไขมันสูงอาจทำให้คลื่นไส้มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารมันๆ และอาหารที่มีครีมเข้มข้น
  • อุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อย: อาหารเย็นๆ อาจช่วยได้ในช่วงแรก แต่เมื่ออาการดีขึ้น ควรทานอาหารอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อย เพื่อช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร
  • แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ: ทานอาหารทีละน้อยๆ หลายๆ มื้อ แทนที่จะทานมื้อใหญ่ จะช่วยลดภาระของระบบทางเดินอาหาร

ตัวอย่างอาหารที่แนะนำ:

  • ข้าวต้มขาว: ง่ายต่อการย่อยและให้พลังงาน
  • กล้วยน้ำว้าสุก: อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งร่างกายสูญเสียไปจากการอาเจียน
  • แอปเปิ้ลซอส: ให้รสชาติหวานอ่อนๆ และอุดมไปด้วยไฟเบอร์
  • ขนมปังปิ้งแบบไม่ทาอะไร: ให้พลังงาน และง่ายต่อการย่อย
  • แครกเกอร์: ช่วยดูดซับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • อาหารทอด มันๆ เลี่ยนๆ: เช่น เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด อาหารรสจัด
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน: เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลง
  • อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด: เช่น ส้ม มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ (ในช่วงแรก)
  • อาหารที่มีไขมันสูง: เช่น เนย ครีม ชีส (ในช่วงแรก)

เมื่อใดควรพบแพทย์:

หากอาการอาเจียนไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้สูง ปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด หรือมีอาการอื่นที่ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องร่วมกับการปรึกษาแพทย์จะช่วยให้คุณหายจากอาการอาเจียนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

บทความนี้มุ่งเน้นให้ข้อมูลทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการอาเจียน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เสมอ