ควรตรวจตาทุกกี่ปี

5 การดู

หลังอายุ 40 ปี ควรตรวจสุขภาพตาทุก 2 ปี เพื่อคัดกรองและป้องกันโรคตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน และจอประสาทตาเสื่อม ช่วยให้การรักษาได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ดวงตาคู่สำคัญ: ดูแลให้ดี เริ่มต้นเมื่ออายุ 40

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของเรา การมองเห็นที่ชัดเจนช่วยให้เราสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างราบรื่นและมีความสุข แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความเสื่อมของร่างกายก็ย่อมเกิดขึ้นกับดวงตาของเราเช่นกัน หลายคนอาจละเลยการดูแลสุขภาพดวงตา เพราะคิดว่าสายตายังดีอยู่ หรือยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ทว่าโรคเกี่ยวกับดวงตาบางชนิดมักจะไม่มีอาการในระยะแรก กว่าจะรู้ตัวก็อาจจะสายเกินไป

ทำไมต้องตรวจสุขภาพตาหลังอายุ 40?

เมื่ออายุเข้าสู่เลข 4 การเปลี่ยนแปลงทางสรีระต่างๆ เริ่มเกิดขึ้นอย่างชัดเจน หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนแปลงของดวงตา ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากขึ้น เช่น

  • ต้อกระจก: เลนส์แก้วตาขุ่นมัว ทำให้การมองเห็นค่อยๆ ลดลง
  • ต้อหิน: ความดันในลูกตาสูงขึ้น ทำให้เส้นประสาทตาถูกทำลายอย่างช้าๆ นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
  • จอประสาทตาเสื่อม: ความเสื่อมของจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นภาพตรงกลางเบลอหรือบิดเบี้ยว

โรคเหล่านี้มักจะไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานวัน การรักษาก็จะยากขึ้นและอาจไม่สามารถฟื้นฟูการมองเห็นให้กลับมาเป็นปกติได้ การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถตรวจพบโรคเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที

ความถี่ในการตรวจสุขภาพตา

โดยทั่วไป หลังอายุ 40 ปี ควรตรวจสุขภาพตาทุก 2 ปี แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ตาม การตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์จะช่วยให้:

  • คัดกรองโรค: ตรวจหาความผิดปกติของดวงตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม และโรคอื่นๆ
  • วัดสายตา: ตรวจสอบค่าสายตาที่เปลี่ยนแปลงไป และปรับแว่นให้เหมาะสม
  • ประเมินสุขภาพโดยรวม: ดวงตาอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง

สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนไปตรวจสุขภาพตา

  • ทำความสะอาดดวงตา: ล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบริเวณรอบดวงตาให้สะอาด
  • แจ้งประวัติ: บอกประวัติการเจ็บป่วยของตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับดวงตา
  • นำแว่นตา: นำแว่นตาที่ใช้อยู่ไปด้วย เพื่อให้จักษุแพทย์ตรวจสอบ
  • เตรียมตัวขยายม่านตา: จักษุแพทย์อาจจำเป็นต้องขยายม่านตา เพื่อตรวจดูจอประสาทตาให้ละเอียดขึ้น ซึ่งอาจทำให้การมองเห็นพร่ามัวชั่วคราว ดังนั้นควรมีคนขับรถให้ หรือหลีกเลี่ยงการขับรถเอง

ดูแลดวงตาให้แข็งแรง ควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพตา

นอกจากการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำแล้ว การดูแลดวงตาด้วยวิธีอื่นๆ ก็มีความสำคัญเช่นกัน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์: ทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีสีส้มเหลือง ซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพดวงตา
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า: สวมแว่นกันแดดเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดจ้า เพื่อปกป้องดวงตาจากรังสี UV
  • พักสายตาเป็นระยะ: หากต้องใช้สายตาจ้องมองหน้าจอนานๆ ควรพักสายตาเป็นระยะ โดยมองไปที่สิ่งของที่อยู่ไกลๆ ทุก 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที (กฎ 20-20-20)

ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ การดูแลสุขภาพดวงตาจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำควบคู่ไปกับการดูแลดวงตาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณมีดวงตาที่แข็งแรงและมองเห็นโลกได้อย่างสดใสไปอีกนาน