ค่าไตเท่าไรถึงต้องฟอก

6 การดู

การเริ่มฟอกไตขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่เพียงค่า eGFR การมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคไตเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูงควบคุมยาก ระดับโพแทสเซียมสูง หรือภาวะกรดยูริคในเลือดสูง ก็เป็นตัวชี้วัดสำคัญ แพทย์จะพิจารณาแบบองค์รวม เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล ไม่ใช่เพียงแค่ค่า eGFR เท่านั้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไตเสื่อมแค่ไหนถึงต้องฟอก? คำถามที่ผู้ป่วยมักสงสัย

โรคไตเรื้อรังเป็นโรคที่น่ากลัว เพราะมักไม่มีอาการในช่วงแรกๆ แต่เมื่อไตเสื่อมลงเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งก็จำเป็นต้องได้รับการฟอกไตเพื่อรักษาชีวิต ผู้ป่วยหลายคนมักถามว่า “ไตเสื่อมแค่ไหนถึงต้องฟอก?” คำตอบคือ ไม่ใช่แค่ค่า eGFR เท่านั้น!

ค่า eGFR เป็นเพียงหนึ่งในตัวชี้วัด eGFR ย่อมาจาก Estimated Glomerular Filtration Rate หรืออัตราการกรองของไต ซึ่งเป็นค่าที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของไต ยิ่งค่า eGFR ต่ำลงเท่าไร แสดงว่าไตเสื่อมลงมากเท่านั้น โดยทั่วไป หากค่า eGFR ต่ำกว่า 15 มิลลิลิตรต่อนาทีต่อ 1.73 ตารางเมตร แพทย์จะพิจารณาการฟอกไต

แต่ไม่ใช่แค่ค่า eGFR เท่านั้น! การตัดสินใจเริ่มฟอกไตขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • อาการแทรกซ้อนจากโรคไตเรื้อรัง:
    • ความดันโลหิตสูงควบคุมยาก
    • ระดับโพแทสเซียมสูง
    • ภาวะกรดยูริคในเลือดสูง
    • โรคหัวใจ
    • โรคเบาหวาน
    • โรคโลหิตจาง
  • สภาพร่างกายของผู้ป่วย:
    • อายุ
    • น้ำหนัก
    • โรคประจำตัว
    • ความสามารถในการดูแลตัวเอง
  • ความต้องการของผู้ป่วย:
    • ความพร้อมในการรับการรักษา
    • การยอมรับผลข้างเคียงของการฟอกไต

แพทย์จะพิจารณาแบบองค์รวม แพทย์จะประเมินสภาพร่างกายของผู้ป่วยอย่างละเอียด พิจารณาถึงค่า eGFR อาการแทรกซ้อน และความต้องการของผู้ป่วย เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ค่า eGFR เท่านั้น

การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าการฟอกไตจะเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องสามารถชะลอการเสื่อมของไตได้ เช่น

  • ควบคุมน้ำหนัก
  • งดสูบบุหรี่
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การรักษาโรคไตเรื้อรัง เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน การปรึกษาแพทย์และดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง จะช่วยชะลอการเสื่อมของไต และยืดอายุให้กับผู้ป่วยได้