จอประสาทตาอักเสบคืออะไร

6 การดู

โรคจอประสาทตาอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ส่งผลให้จอประสาทตาบวมแดง มีอาการปวดตา มองเห็นภาพเบลอหรือมีจุดบอด การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ อาจใช้ยาต้านการอักเสบหรือยาฆ่าเชื้อ ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติทางสายตา การวินิจฉัยที่รวดเร็วสำคัญต่อการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

จอประสาทตาอักเสบ: เมื่อดวงตาของคุณอักเสบ

จอประสาทตาอักเสบ (Uveitis) เป็นการอักเสบของส่วนหนึ่งของดวงตาที่เรียกว่า “จอประสาทตา” ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านหลังของดวงตา โรคนี้มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่บางครั้งก็อาจเกิดจากโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือโรคสะเก็ดเงิน

อาการของโรคจอประสาทตาอักเสบ

อาการของโรคนี้มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับส่วนของจอประสาทตาที่ถูกอักเสบ และความรุนแรงของการอักเสบ อาการทั่วไป ได้แก่

  • ปวดตา รู้สึกเจ็บตาอย่างรุนแรง
  • ตาแดง ดวงตาบวมแดง มีเลือดออกในตาขาว
  • มองเห็นภาพเบลอ
  • มีจุดบอด
  • ไวต่อแสง แสงสว่างทำให้รู้สึกแสบตา
  • เลือดออกในตา
  • สายตาพร่ามัว

สาเหตุของโรคจอประสาทตาอักเสบ

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคนี้คือ:

  • การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อไวรัส โรคเริม โรคซิฟิลิส หรือโรคเยื่อบุตาอักเสบ
  • โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน โรคลูปัส
  • โรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคเรื้อรังในระบบประสาท
  • บาดเจ็บที่ดวงตา

การรักษาโรคจอประสาทตาอักเสบ

การรักษาโรคนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุ แพทย์อาจสั่งยาเพื่อลดอาการอักเสบ เช่น ยาหยอดตาต้านการอักเสบ หรือยาหยอดตาฆ่าเชื้อ ในกรณีที่รุนแรง อาจต้องได้รับการรักษาด้วยยาเม็ดหรือยาฉีด

การป้องกัน

ไม่มีวิธีการป้องกันโรคจอประสาทตาอักเสบอย่างแน่นอน แต่การดูแลสุขภาพตาเป็นสิ่งสำคัญ ควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสตาโดยไม่จำเป็น และล้างมือบ่อยๆ

เมื่อใดควรพบแพทย์

หากมีอาการผิดปกติทางสายตา เช่น ปวดตา ตาแดง มองเห็นภาพเบลอ หรือมีจุดบอด ควรพบแพทย์ทันที การวินิจฉัยที่รวดเร็วสำคัญต่อการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

หมายเหตุ

บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโรคจอประสาทตาอักเสบเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อวินิจฉัยหรือรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและแผนการรักษาที่ถูกต้อง