จะรู้ได้ไงว่ากระดูกเสื่อม

9 การดู

อาการกระดูกเสื่อมนอกจากอาการปวดข้อและข้อติดแข็งแล้ว อาจพบอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรอบข้อ มีอาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่าตามปลายนิ้วมือหรือเท้า ความแข็งของข้อต่อรุนแรงขึ้นในตอนเช้าหรือหลังจากพักนานๆ และการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของข้อต่อที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า หากสงสัยว่าเป็นโรคกระดูกเสื่อม ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รู้ได้อย่างไรว่ากระดูกเสื่อม? มากกว่าแค่ข้อปวดและข้อแข็ง

โรคกระดูกเสื่อม (Osteoarthritis) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่บุผิวข้อต่อ ทำให้เกิดอาการปวดและข้อแข็ง แต่ความจริงแล้ว อาการของโรคกระดูกเสื่อมนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนคิด เพียงแค่ “ปวดข้อ” อาจไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่าเป็นโรคนี้ เรามาทำความเข้าใจอาการต่างๆ ที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงและการเกิดโรคกระดูกเสื่อมกันอย่างละเอียด

อาการที่พบบ่อยและอาจมองข้าม:

แน่นอนว่า อาการปวดข้อ และข้อติดแข็ง คือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนที่สุด แต่โรคกระดูกเสื่อมอาจแฝงตัวด้วยอาการอื่นๆที่มักถูกมองข้าม หรือเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคอื่น อาการเหล่านั้น ได้แก่:

  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรอบข้อ: การเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนจะส่งผลให้ข้อต่อไม่เสถียร ร่างกายจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อพยุงข้อต่อนั้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบๆ ข้อต่อเกิดอาการปวดเมื่อย อาการนี้อาจเกิดก่อนหรือหลังอาการปวดข้อโดยตรงก็ได้ บางครั้งปวดกล้ามเนื้ออาจรุนแรงกว่าอาการปวดข้อเสียอีก

  • อาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่า: เมื่อกระดูกอ่อนเสื่อมสภาพ การกดทับเส้นประสาทรอบๆ ข้อต่ออาจเกิดขึ้นได้ ส่งผลให้เกิดอาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่าที่ปลายนิ้วมือหรือเท้า โดยเฉพาะบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากข้อต่อที่เสื่อม อาการนี้มักพบในโรคกระดูกเสื่อมที่กระดูกสันหลัง

  • ความแข็งของข้อต่อรุนแรงขึ้นในตอนเช้าหรือหลังจากพักนานๆ: อาการนี้เกิดจากการที่น้ำหล่อเลี้ยงข้อต่อลดลงในช่วงที่พักผ่อน เมื่อเริ่มเคลื่อนไหว ข้อต่อจะรู้สึกแข็งและปวดจนกว่าจะได้เคลื่อนไหวไปสักระยะ ซึ่งอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามการเคลื่อนไหว แต่หากอาการแข็งนานเกิน 30 นาที ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

  • การเปลี่ยนแปลงรูปทรงของข้อต่อ: ในระยะท้ายของโรคกระดูกเสื่อม อาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของข้อต่อได้ด้วยตาเปล่า เช่น ข้อต่อบวม ผิดรูป หรือมีลักษณะผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง

เมื่อใดควรพบแพทย์?

หากคุณพบอาการใดๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที การวินิจฉัยที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสม และชะลอการดำเนินของโรคได้ อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดเป็นอุปสรรคต่อคุณภาพชีวิต การดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณมีสุขภาพข้อต่อที่ดีขึ้นได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณเสมอ