จ้ำเลือดใต้ผิวหนังเกิดจากอะไร

จ้ำเลือดใต้ผิวหนัง: เบื้องหลังรอยแดง รอยม่วง และสิ่งที่คุณควรรู้

จ้ำเลือดใต้ผิวหนังที่ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ อาจทำให้เกิดความกังวลได้ หลายคนคุ้นเคยกับรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระแทก แต่บางครั้งจ้ำเลือดเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย บทความนี้จะพาไปสำรวจเบื้องหลังการเกิดจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง ตั้งแต่สาเหตุทั่วไปจนถึงปัจจัยที่ควรต้องพึงระวัง

แน่นอนว่าการกระทบกระแทกหรือการบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นสาเหตุหลักของจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง เส้นเลือดฝอยเล็กๆ ใต้ผิวหนังแตกออก ทำให้เลือดซึมออกมาและปรากฏเป็นรอยแดงหรือม่วง ขนาดและสีของจ้ำเลือดจะบ่งบอกถึงความรุนแรงของการบาดเจ็บ จุดเล็กๆ สีแดงหรือม่วงที่เรียกว่า จุดเลือดออก (Petechiae) มักเกิดจากการไอแรง การอาเจียน หรือความดันโลหิตสูงชั่วคราว ส่วนรอยฟกช้ำขนาดใหญ่ขึ้น หรือที่เราคุ้นเคยในชื่อ จ้ำเขียว หรือ พรายเลือด มักเกิดจากการกระแทกที่รุนแรงกว่า

อย่างไรก็ตาม จ้ำเลือดใต้ผิวหนังที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน หรือเกิดขึ้นง่ายผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ เช่น ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โรคเลือดออกง่ายผิดปกติ การขาดวิตามินบางชนิด ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด รวมถึงโรคที่ร้ายแรงกว่า เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว

นอกจากขนาดและสีของจ้ำเลือด อาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นร่วมด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรสังเกต เช่น มีไข้ ปวดตามข้อ อ่อนเพลีย เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน หรือมีจ้ำเลือดเกิดขึ้นจำนวนมากและบ่อยครั้ง หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง แพทย์อาจทำการตรวจเลือด ตรวจนับเม็ดเลือด หรือตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง สามารถประคบเย็นบริเวณที่เกิดจ้ำเลือดเพื่อลดอาการบวมและปวด ยกส่วนที่บาดเจ็บให้สูงขึ้นเพื่อลดการไหลเวียนของเลือด และหลีกเลี่ยงการกดหรือถูบริเวณที่เกิดจ้ำเลือด อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม