ชนิดของแผลมีกี่ประเภท

2 การดู

ดูแลแผลอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ! ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือสบู่อ่อนๆ ซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์ยา หากแผลลึก มีเลือดออกมาก หรือมีอาการติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ
คุณอาจต้องการถาม? ดูเพิ่มเติม

ลึกลงไปในแผล: รู้จักประเภทแผลเพื่อการดูแลที่ถูกต้อง

แผล เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นกับผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง อาจเกิดจากการบาดเจ็บต่างๆ ตั้งแต่การถูกเฉือนเล็กน้อยไปจนถึงอุบัติเหตุร้ายแรง การเข้าใจประเภทของแผลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ แม้ว่าการจำแนกประเภทแผลอาจซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่เราสามารถแบ่งแผลออกเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้ โดยเน้นความแตกต่างที่สำคัญในการดูแลรักษา:

1. แผลเปิด (Open Wound): เป็นแผลที่มีความเสียหายต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อ เห็นได้ชัดเจนว่าผิวหนังถูกทำลาย สามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายประเภท เช่น:

  • แผลถลอก (Abrasion): เกิดจากการเสียดสีผิวหนังกับพื้นผิวขรุขระ ผิวหนังชั้นนอกถูกทำลาย มักไม่ลึกมาก ตัวอย่างเช่น การล้มลงบนพื้นผิวที่ขรุขระ
  • แผลฉีกขาด (Laceration): เกิดจากการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ อาจมีขอบแผลไม่เรียบ อาจมีเลือดออกปานกลางถึงมาก ตัวอย่างเช่น การถูกของมีคมบาดหรือการถูกกระแทกอย่างแรง
  • แผลบาด (Incision): เป็นแผลที่เกิดจากการตัด มักมีขอบแผลเรียบ เป็นแผลที่ทำโดยมีดหรือของมีคม ตัวอย่างเช่น แผลผ่าตัด
  • แผลทะลุ (Puncture Wound): เกิดจากการถูกแทงด้วยวัตถุแหลม แผลมักเล็กและตื้น แต่ความลึกของแผลอาจลึกมาก มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ ตัวอย่างเช่น การถูกตะปูตำ
  • แผลกัด (Bite Wound): เกิดจากการถูกกัดโดยสัตว์หรือคน มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีและรวดเร็ว

2. แผลปิด (Closed Wound): เป็นแผลที่ผิวหนังยังคงปิดสนิท ไม่เห็นความเสียหายของผิวหนัง แต่ภายในอาจมีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ เช่น:

  • รอยฟกช้ำ (Contusion): เกิดจากการกระแทก มีการแตกของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดรอยเขียวช้ำ อาจมีอาการปวดบวม
  • การบาดเจ็บที่กระดูก (Fracture): เป็นการแตกหักของกระดูก อาจมีหรือไม่มีแผลเปิด จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์

การดูแลแผลเบื้องต้น: การดูแลแผลอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการติดเชื้อและเร่งการสมานแผล สำหรับแผลเล็กน้อยที่ไม่ลึก ควรทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือสบู่อ่อนๆ ล้างเบาๆ จากขอบแผลเข้าหาตรงกลาง ซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์ยาที่สะอาด เปลี่ยนผ้าปิดแผลเป็นประจำ สังเกตอาการติดเชื้อ เช่น บวม แดง ร้อน ปวดมากขึ้น มีหนอง หากมีอาการเหล่านี้ หรือแผลลึก มีเลือดออกมาก หรือมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในแผล ควรไปพบแพทย์ทันที

ข้อควรระวัง: บทความนี้มีไว้เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับแผล ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เสมอ