ตรวจภายใน ควรตรวจกี่ปีครั้ง

2 การดู

ตรวจภายในเป็นการตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะภายในช่องคลอดและมดลูก โดยทั่วไปแนะนำให้ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วเริ่มตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกหรือเมื่ออายุ 21 ปี และควรตรวจเป็นประจำทุก 2-3 ปี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตรวจภายใน ควรตรวจกี่ปีครั้ง

การตรวจภายในเป็นขั้นตอนการตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะภายในช่องคลอดและมดลูก การตรวจนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงในการป้องกันและคัดกรองโรคต่างๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการตรวจภายใน

แนะนำให้ผู้หญิงทุกคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วเริ่มเข้ารับการตรวจภายในหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกหรือเมื่ออายุ 21 ปี โดยทั่วไป ควรเข้ารับการตรวจเป็นประจำทุก 2-3 ปี อย่างไรก็ตาม ความถี่ของการตรวจอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประวัติสุขภาพ ประวัติทางเพศ และผลจากการตรวจครั้งก่อนๆ

เหตุผลที่ควรเข้ารับการตรวจภายใน

  • คัดกรองมะเร็งปากมดลูก: การตรวจภายในสามารถตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติบนปากมดลูก ซึ่งอาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูกได้
  • คัดกรองมะเร็งรังไข่: การตรวจภายในสามารถช่วยตรวจหาถุงน้ำหรือก้อนเนื้อบนรังไข่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งรังไข่
  • ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์: การตรวจภายในสามารถวินิจฉัยและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น คลามิเดียและหนองใน
  • ตรวจหาความผิดปกติอื่นๆ: การตรวจภายในสามารถตรวจหาความผิดปกติอื่นๆ เช่น เนื้องอกมดลูก ซีสต์ในรังไข่ และการอักเสบของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน

สิ่งที่คาดหวังระหว่างการตรวจภายใน

การตรวจภายในจะดำเนินการโดยแพทย์หรือพยาบาล โดยผู้เข้ารับการตรวจจะต้องนอนบนโต๊ะตรวจและถอดเสื้อผ้าจากเอวลงไป แพทย์จะสอดสเปคูลัม ซึ่งเป็นเครื่องมือขนาดเล็กที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ เข้าไปในช่องคลอด จากนั้นแพทย์จะใช้แปรงหรือไม้พันสำลีเพื่อเก็บตัวอย่างเซลล์จากปากมดลูก (Pap smear) อาจมีความรู้สึกไม่สบายหรือปวดเล็กน้อยระหว่างการตรวจ แต่โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาไม่นาน

ความสำคัญของการตรวจภายในเป็นประจำ

การเข้ารับการตรวจภายในเป็นประจำมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสุขภาพโดยรวมของผู้หญิง การตรวจนี้ช่วยในการคัดกรองโรคในระยะเริ่มแรกเมื่อยังสามารถรักษาได้ง่ายขึ้น การตรวจภายในช่วยให้ผู้หญิงสามารถดูแลสุขภาพทางนรีเวชของตนเองได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงในอนาคต