ตาแพ้แสง หายเองได้ไหม

ตาแพ้แสง หายเองได้ไหม

ภาวะตาแพ้แสงเป็นอาการที่ดวงตาไวต่อแสงมากเกินไป โดยทำให้รู้สึกไม่สบายตาเมื่อสัมผัสกับแสงจ้าหรือแสงแดด อาการตาแพ้แสงอาจเกิดขึ้นชั่วคราวหรือเรื้อรัง และอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ

สาเหตุของตาแพ้แสง

• ภาวะการอักเสบของดวงตา เช่น โรคเยื่อบุตาอักเสบหรือกระจกตาอักเสบ
• การติดเชื้อในดวงตา เช่น เริมหรือไวรัส
• ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้ปวด
• โรคภูมิต้านตนเอง เช่น โรคลูปัสหรือโรคข้อรูมาตอยด์
• โรคทางระบบประสาท เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
• การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เช่น จากการอาบแดดหรือใช้เตียงอาบแดด

อาการของตาแพ้แสง

• ปวดแสบ แสบตา หรือเคืองตาเมื่อสัมผัสกับแสง
• น้ำตาไหลมาก
• ปวดหัว
• คลื่นไส้
• มองไม่ชัดหรือมองเป็นภาพซ้อน
• ตาแดง

ตาแพ้แสงหายเองได้ไหม

ความสามารถในการหายของภาวะตาแพ้แสงนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ โดยทั่วไปแล้ว ภาวะตาแพ้แสงที่เกิดจากสาเหตุระยะสั้น เช่น การได้รับรังสี UV อาจหายเองได้ภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ภาวะตาแพ้แสงที่เกิดจากภาวะเรื้อรัง เช่น โรคภูมิต้านตนเองหรือโรคทางระบบประสาท อาจไม่สามารถหายเองได้และอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

การรักษาตาแพ้แสง

การรักษาตาแพ้แสงจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ตัวอย่างเช่น:

• สำหรับภาวะการอักเสบของดวงตา แพทย์อาจสั่งยาหยอดตาที่มีสเตียรอยด์หรือยาต้านการอักเสบ
• สำหรับการติดเชื้อในดวงตา แพทย์อาจสั่งยาหยอดตาหรือยาปฏิชีวนะแบบรับประทาน
• สำหรับภาวะตาแพ้แสงที่เกิดจากยา แพทย์อาจแนะนำให้หยุดใช้ยาหรือเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดอื่น

การป้องกันตาแพ้แสง

วิธีป้องกันตาแพ้แสงได้มีดังต่อไปนี้:

• สวมแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้
• หลีกเลี่ยงการใช้เตียงอาบแดดหรือการอาบแดดเป็นเวลานาน
• พักสายตาจากการใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน
• หลีกเลี่ยงแสงจ้าโดยใช้วิธีปิดม่านหรือใช้ม่านบังแดด

หากคุณมีอาการตาแพ้แสง ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด การดูแลสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอและการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหายและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของภาวะตาแพ้แสงได้