ทำไมกินปลาหมึกแล้วปวดท้อง

14 การดู

การบริโภคปลาหมึกดิบหรือปรุงสุกไม่เพียงพอ อาจทำให้ได้รับสารฮีสตามีนปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการย่อยสลายของโปรตีนในปลาหมึก ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และผื่นคัน การเลือกซื้อปลาหมึกสดใหม่และปรุงสุกอย่างทั่วถึงจึงสำคัญต่อสุขภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดท้องหลังกินปลาหมึก: สาเหตุที่มากกว่าแค่ “ไม่สะอาด”

ปลาหมึก อาหารทะเลรสชาติดีที่หลายคนชื่นชอบ แต่ทราบหรือไม่ว่าการบริโภคปลาหมึกอาจนำมาซึ่งอาการปวดท้องได้ และสาเหตุนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงความไม่สะอาดของวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุที่ทำให้กินปลาหมึกแล้วปวดท้อง เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจและสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างถูกต้อง

แน่นอนว่า ความไม่สะอาด ยังคงเป็นสาเหตุหลัก การรับประทานปลาหมึกที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย เช่น Vibrio parahaemolyticus หรือ Salmonella สามารถทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งแสดงอาการต่างๆ ได้แก่ ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องเสีย คลื่นไส้ และอาเจียน การเลือกซื้อปลาหมึกจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบความสดใหม่ และปรุงสุกอย่างทั่วถึง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้

แต่เหนือกว่าความไม่สะอาด ปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ สารฮีสตามีน ปลาหมึกเป็นอาหารทะเลที่มีโปรตีนสูง เมื่อปลาหมึกไม่ได้รับการเก็บรักษาอย่างถูกต้องหรือปรุงสุกไม่เพียงพอ เอนไซม์ในเนื้อปลาหมึกจะย่อยสลายโปรตีนกลายเป็นฮีสตามีน สารนี้เป็นสารที่ร่างกายของบางคนแพ้ ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ อาทิ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นคัน และในกรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นช็อก ระดับฮีสตามีนที่สูงในปลาหมึกมักพบในปลาหมึกที่ตายแล้วนาน หรือถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ การแพ้โปรตีนในปลาหมึก ก็เป็นสาเหตุที่อาจทำให้ปวดท้องได้เช่นกัน คล้ายกับการแพ้อาหารชนิดอื่นๆ อาการแพ้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่เพียงแค่ปวดท้องเล็กน้อยไปจนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก หรือบวมที่ใบหน้าและลำคอ

ดังนั้น เพื่อป้องกันอาการปวดท้องหลังรับประทานปลาหมึก สิ่งที่ควรทำคือ:

  • เลือกซื้อปลาหมึกสดใหม่: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลาหมึกสด มีกลิ่นปกติ และไม่มีร่องรอยของการเน่าเสีย
  • เก็บรักษาอย่างถูกต้อง: เก็บปลาหมึกที่ยังไม่ปรุงในอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส และรับประทานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • ปรุงสุกอย่างทั่วถึง: ปรุงปลาหมึกให้สุกทั่วถึง จนเนื้อเปลี่ยนเป็นสีขาว เพื่อทำลายแบคทีเรียและลดปริมาณฮีสตามีน
  • สังเกตอาการแพ้: หากมีอาการแพ้หลังรับประทานปลาหมึก ควรหยุดรับประทานทันที และปรึกษาแพทย์

การกินปลาหมึกอย่างปลอดภัย จำเป็นต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อ การเก็บรักษา และการปรุงอาหาร ด้วยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เราจะสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของปลาหมึกได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล