ทำไมตื่นแล้วตามัว

0 การดู

อาการตาพร่ามัวหลังตื่นนอนแล้วหายไปหลังล้างหน้า อาจเกิดจากสารคัดหลั่งในตาขณะหลับเกาะกลุ่มกันจนบดบังการมองเห็นชั่วคราว ปริมาณสารคัดหลั่งอาจไม่เท่ากันในสองข้างตา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ หากไม่มีอาการอื่นร่วม เช่น แสบตา เคืองตา หรือตาแดง ไม่จำเป็นต้องกังวล แต่หากอาการยังคงอยู่หรือมีอาการอื่นๆร่วมด้วย ควรพบแพทย์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตื่นมาทำไมตาพร่ามัว? เรื่องธรรมดาหรือสัญญาณเตือนภัย?

อาการตาพร่ามัวหลังตื่นนอน เป็นประสบการณ์ที่หลายคนคุ้นเคย ภาพเบือนราง มองเห็นไม่ชัดเจนมักจะหายไปหลังจากล้างหน้า แต่เคยสงสัยไหมว่า สาเหตุของอาการนี้คืออะไร? และเมื่อไหร่ที่ควรต้องกังวล?

ความจริงแล้ว อาการตาพร่ามัวชั่วคราวหลังตื่นนอน ส่วนใหญ่เกิดจากการสะสมของสารคัดหลั่งต่างๆ ในดวงตาขณะที่เราหลับ สารคัดหลั่งเหล่านี้ ประกอบไปด้วยน้ำตา น้ำมัน และเมือก ทำหน้าที่หล่อลื่นและปกป้องดวงตา ในขณะที่เราหลับ การกระพริบตาจะลดลง ทำให้สารคัดหลั่งเหล่านี้ไม่มีการกระจายตัวอย่างทั่วถึง และเกาะกลุ่มกันเป็นคราบเหนียว บดบังการมองเห็น เมื่อเราล้างหน้า คราบสารคัดหลั่งเหล่านี้ก็จะถูกชะล้างออกไป ทำให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติ

ปริมาณของสารคัดหลั่งในแต่ละดวงตาอาจไม่เท่ากัน ทำให้บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าตาข้างหนึ่งพร่ามัวมากกว่าอีกข้างหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ หากไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แสบตา เคืองตา ตาแดง คันตา หรือมีขี้ตาผิดปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล

อย่างไรก็ตาม หากอาการตาพร่ามัวหลังตื่นนอนไม่หายไปหลังจากล้างหน้า หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดตา มองเห็นภาพซ้อน เห็นแสงวาบ หรือมีอาการผิดปกติทางการมองเห็นอื่นๆ ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง เนื่องจากอาการตาพร่ามัวอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคตาแห้ง โรคต้อกระจก โรคต้อหิน หรือแม้กระทั่งโรคเบาหวาน ดังนั้น การสังเกตอาการของตนเองและพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพดวงตา