ทำไมผ่าตัดถึงห้ามกินอาหารทะเล

หลังผ่าตัด…ทำไมต้องงดอาหารทะเล? มากกว่าแค่ “แพ้”

การผ่าตัดใหญ่เป็นกระบวนการที่ร่างกายต้องใช้พลังงานมหาศาลในการซ่อมแซมตัวเอง หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และคำแนะนำที่มักได้ยินบ่อยๆ คือการงดอาหารทะเล แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพียงแค่เพราะบางคนแพ้หรือมีมากกว่านั้น?

คำตอบคือ มีหลายปัจจัยที่ทำให้แพทย์แนะนำให้งดอาหารทะเลหลังผ่าตัด ไม่ใช่แค่เรื่องอาการแพ้เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึง:

1. ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: อาหารทะเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่สดหรือปรุงไม่สุกดี อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิตต่างๆ หลังผ่าตัด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายยังอ่อนแอ การรับประทานอาหารทะเลจึงเพิ่มโอกาสให้เชื้อเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายและก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้แผลผ่าตัดอักเสบ หายช้า หรือแม้กระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงขึ้น

2. การอักเสบ: อาหารทะเลบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้ หรือแม้แต่ในผู้ที่ไม่แพ้ก็อาจมีปฏิกิริยาอักเสบเล็กน้อย การอักเสบนี้จะยิ่งรบกวนกระบวนการสมานแผล ทำให้แผลหายช้าและอาจเกิดรอยแผลเป็นที่ไม่สวยงาม

3. การย่อยยาก: อาหารทะเลบางชนิดมีโปรตีนที่ย่อยยาก หลังผ่าตัด ระบบการย่อยอาหารอาจยังไม่ทำงานเต็มที่ การรับประทานอาหารทะเลอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้า ขาดสารอาหาร และกระทบต่อการฟื้นตัวหลังผ่าตัด

4. ปฏิกิริยากับยา: บางชนิดของยาที่ใช้หลังผ่าตัดอาจมีปฏิกิริยากับสารอาหารบางชนิดในอาหารทะเล ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับการรับประทานอาหารหลังผ่าตัดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

แทนที่อาหารทะเล… ควรกินอะไรดี?

ในช่วงระยะเวลาที่แพทย์แนะนำให้งดอาหารทะเล ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ย่อยง่าย และช่วยในการสมานแผล เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ธัญพืช และอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนคุณภาพสูง การดื่มน้ำมากๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น

สุดท้ายนี้ การงดอาหารทะเลหลังผ่าตัดเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง เพื่อให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพที่สุด