ทำไมแผลถลอกหายช้า

ทำไมแผลถลอกหายช้า: กว่าจะผิวสวยใส (และสิ่งที่คุณควรรู้!)

แผลถลอกเล็กๆ น้อยๆ คือเพื่อนสนิทของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นจากการสะดุดล้ม วิ่งเล่น หรือแม้แต่การทำครัว แต่บางครั้งเราก็สงสัยว่าทำไมแผลถลอกบางแผลหายเร็วจนแทบไม่ทันสังเกต ในขณะที่บางแผลกลับอ้อยอิ่งอยู่นานสองนาน วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงปัจจัยที่ทำให้แผลถลอกหายช้า พร้อมเคล็ดลับดูแลแผลให้กลับมาเนียนสวยโดยเร็ว

ปัจจัยที่ทำให้แผลถลอกหายช้า มีอะไรบ้าง?

• การติดเชื้อ: ข้อนี้สำคัญที่สุด! แผลถลอกคือประตูเปิดให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย หากดูแลไม่ดี อาจเกิดการติดเชื้อ ซึ่งจะขัดขวางกระบวนการสมานแผล ทำให้แผลบวมแดง ปวด และมีหนอง

• การรบกวนแผล: การแกะ เกา หรือสัมผัสแผลบ่อยๆ จะทำให้กระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ถูกขัดขวาง แผลจึงหายช้าลง แถมยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยแผลเป็นอีกด้วย

• ความชื้น: แผลที่ชื้นเกินไปจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี ในขณะเดียวกัน แผลที่แห้งผากเกินไปก็จะทำให้เซลล์ผิวใหม่เคลื่อนตัวได้ยาก ทางที่ดีควรดูแลให้แผลมีความชื้นพอเหมาะ

• ภาวะสุขภาพ: โรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน จะส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิต ทำให้แผลหายช้าลง นอกจากนี้ ภาวะขาดสารอาหาร หรือการได้รับยาบางชนิด (เช่น สเตียรอยด์) ก็อาจมีผลต่อการสมานแผล

• อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่จะช้าลง ทำให้แผลหายช้ากว่าในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาว

อาหารกับการสมานแผล: กินอะไรดี (และอะไรที่ควรเลี่ยง)?

เรื่องอาหารการกินมีผลต่อการสมานแผลอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

• โปรตีน: เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ควรทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากนม

• วิตามินซี: ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะนาว

• สังกะสี (Zinc): มีส่วนช่วยในการสมานแผล พบได้ในเนื้อสัตว์ ถั่ว และธัญพืช

แล้วอาหารหมักดองล่ะ? ทำไมถึงไม่แนะนำ?

อย่างที่เราทราบกันดีว่าอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง มักมี โซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิต และทำให้แผลหายช้าลง นอกจากนี้ อาหารหมักดองบางชนิดอาจมี เชื้อโรคปนเปื้อน หากทานเข้าไปอาจทำให้แผลติดเชื้อได้

เคล็ดลับดูแลแผลถลอกให้หายไว เนียนสวย:

1. ล้างแผลให้สะอาด: ใช้น้ำสะอาด หรือน้ำเกลือ (Normal Saline) ล้างแผลเบาๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก

2. ใส่ยาฆ่าเชื้อ: ทายาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดน ไอโอดีน หรือ คลอเฮกซิดีน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

3. ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ หรือพลาสเตอร์: ช่วยป้องกันสิ่งสกปรก และรักษาความชื้นที่เหมาะสม

4. เปลี่ยนผ้าก๊อซ หรือพลาสเตอร์: เปลี่ยนอย่างน้อยวันละครั้ง หรือเมื่อเปียกชื้น

5. หลีกเลี่ยงการแกะ เกา แผล: สำคัญมาก!

6. ทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นโปรตีน วิตามินซี และสังกะสี

7. ปรึกษาแพทย์: หากแผลมีอาการแย่ลง เช่น บวมแดง มีหนอง หรือมีไข้

สรุป:

การที่แผลถลอกหายช้ามีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งการติดเชื้อ การรบกวนแผล ภาวะสุขภาพ และอาหารการกิน การดูแลแผลอย่างถูกวิธี ทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจเป็นอันตราย จะช่วยให้แผลหายไว กลับมาเนียนสวยได้ในที่สุด หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม