ท้องเสียขนาดไหนถึงต้องไป รพ

0 การดู

หากมีอาการท้องเสียรุนแรง ถ่ายเป็นน้ำมาก ไม่หยุด หรือถ่ายเป็นเลือด ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ท้องเสียเมื่อไหร่ถึงต้องไปโรงพยาบาล? อย่าชะล่าใจ!

ท้องเสีย ถือเป็นอาการที่พบได้บ่อย หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย รักษาเองได้ แต่รู้หรือไม่ว่าท้องเสียบางกรณีอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง และหากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น การรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ท้องเสียควรไปโรงพยาบาลจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

แน่นอนว่าอาการท้องเสียทั่วไป เช่น ถ่ายเหลววันละ 3-4 ครั้ง ไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ด้วยการดื่มน้ำเกลือแร่ ORS หรือน้ำสะอาดบ่อยๆ และรับประทานอาหารอ่อนย่อย แต่หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน อย่ารอช้า!

  • ถ่ายเหลวบ่อยมาก มากกว่า 6 ครั้งต่อวัน: การถ่ายอุจจาระเหลวบ่อยครั้ง ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว นำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นช็อกได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
  • ถ่ายเป็นน้ำปริมาณมาก ไม่หยุด: บ่งชี้ว่าลำไส้ทำงานผิดปกติอย่างรุนแรง อาจเกิดจากเชื้อโรคที่ร้ายแรง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
  • มีอาการขาดน้ำร่วมด้วย: เช่น ปากแห้ง กระหายน้ำมาก ปัสสาวะน้อยและเข้ม ผิวแห้ง ตาโหล เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย เหล่านี้เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง
  • ถ่ายอุจจาระปนเลือด หรือมีมูกปนเลือด: อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อแบคทีเรีย มีแผลในลำไส้ หรือโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์ทันที
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง: โดยเฉพาะหากปวดบิดเป็นพักๆ ร่วมกับมีไข้สูง อาจเป็นสัญญาณของภาวะไส้ติ่งอักเสบ หรือลำไส้อุดตัน
  • อาเจียนอย่างรุนแรง: ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากขึ้น ยิ่งส่งผลให้ภาวะขาดน้ำรุนแรงขึ้นไปอีก
  • ท้องเสียเรื้อรัง นานเกิน 2 สัปดาห์: แม้จะไม่มีอาการรุนแรงอื่นๆ แต่การท้องเสียนานเกินไป อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคโครห์น โรคลำไส้แปรปรวน หรือการแพ้อาหาร ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
  • มีภูมิคุ้มกันต่ำ: เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการท้องเสีย

อย่าประมาทกับอาการท้องเสีย สังเกตอาการตัวเองอย่างใกล้ชิด และรีบไปพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ การรักษาอย่างทันท่วงทีช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้หายได้เร็วขึ้น.