ทํายังไงถึงจะหายเวียนหัว

1 การดู

หากรู้สึกเวียนหัว ให้หยุดพักหรือนั่งจนกว่าอาการจะทุเลา หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ทำให้เวียนหัว รับประทานยาแก้เมารถหรือยาแก้เวียนหัว หากมีอาการลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว หรือหน้าเบี้ยว ควรรีบพบแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เวียนหัว บ้านหมุน หัวหมุน รู้สึกโลกไม่นิ่ง เหล่านี้คืออาการที่หลายคนคงเคยประสบพบเจอ ซึ่งสร้างความรำคาญและอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ บทความนี้จะแนะนำวิธีรับมือและบรรเทาอาการเวียนหัวเบื้องต้น แต่ขอเน้นย้ำว่า หากอาการเวียนศีรษะรุนแรงหรือเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้อง

เมื่อรู้สึกเวียนหัว ควรทำอย่างไร?

เมื่อเริ่มรู้สึกเวียนหัว สิ่งแรกที่ควรทำคือ:

  • หยุดนิ่ง: หากกำลังเดินหรือเคลื่อนไหวอยู่ ให้นั่งลงหรือนอนราบในที่ปลอดภัยทันที การเคลื่อนไหวอาจทำให้อาการเวียนหัวรุนแรงขึ้นได้
  • หาที่ยึดเหนี่ยว: มองหาจุดใดจุดหนึ่งที่นิ่ง เช่น ผนังหรือต้นไม้ การโฟกัสสายตาไปยังจุดที่มั่นคงจะช่วยลดความรู้สึกหมุนและทำให้สมองปรับตัวได้ดีขึ้น
  • หายใจเข้าลึกๆ: การหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ จะช่วยผ่อนคลายร่างกายและลดความวิตกกังวล ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้อาการเวียนหัวแย่ลง
  • ดื่มน้ำเปล่า: ภาวะขาดน้ำอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเวียนหัวได้ การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น: แสงจ้า เสียงดัง กลิ่นฉุน และความร้อน อาจกระตุ้นให้อาการเวียนหัวกำเริบ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้จนกว่าอาการจะดีขึ้น
  • รับประทานอาหารเบาๆ: หากรู้สึกหิว ควรรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปังหรือแครกเกอร์ อาหารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและบรรเทาอาการเวียนหัวได้

การใช้ยา:

  • ยาแก้เมารถหรือยาแก้เวียนหัว: สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ควรอ่านคำแนะนำในการใช้ยาอย่างละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร: ก่อนใช้ยาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาชนิดอื่นอยู่

สัญญาณอันตรายที่ต้องพบแพทย์ทันที:

อาการเวียนหัวบางครั้งอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที:

  • ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว หรือหน้าเบี้ยว: อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง
  • เวียนศีรษะรุนแรงอย่างฉับพลัน: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่เคยมีอาการมาก่อน
  • สูญเสียการได้ยินหรือมีเสียงในหู: อาจเป็นสัญญาณของปัญหาในหูชั้นใน
  • มองเห็นภาพซ้อนหรือตาพร่ามัว: อาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปวดหัวรุนแรงกว่าที่เคยเป็น
  • มีไข้สูง: อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ

การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเวียนหัวได้ อย่างไรก็ตาม หากอาการเวียนหัวเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือรุนแรง อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง