นิ้วล็อคเป็นโรคอะไร

0 การดู

นิ้วล็อก หรือโรคเทนโนไซโนไวติส (Tenosynovitis) เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็นนิ้วมือบริเวณโคนนิ้ว ทำให้เกิดอาการนิ้วติดขัด งอไม่สุด หรือเหยียดตรงไม่ได้ อาจมีอาการปวดร่วมด้วย การรักษาอาจใช้ยาแก้ปวด การกายภาพบำบัด หรือการผ่าตัด ในกรณีที่รุนแรง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อนิ้วไม่ยอมฟังคำสั่ง: ทำความรู้จักกับ “นิ้วล็อก” และวิธีรับมือ

นิ้วล็อก หรือที่แพทย์เรียกว่า โรคเทนโนไซโนไวติส (Tenosynovitis) เป็นอาการที่พบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกนิ้วติดๆ ขัดๆ ชั่วครู่ แต่เป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็นบริเวณฝ่ามือ ใกล้กับโคนนิ้ว ทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือไม่คล่องตัว สร้างความรำคาญและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างน่าประหลาดใจ

แตกต่างจากอาการนิ้วชาหรือบวมทั่วไป อาการของนิ้วล็อกจะแสดงออกอย่างเฉพาะเจาะจง เริ่มจากอาการนิ้วติดขัด งอหรือเหยียดไม่สุด เหมือนมีอะไรมาขวางกั้นการเคลื่อนไหว บางครั้งอาจมีเสียงคลิกหรือแตกดังขึ้นขณะขยับนิ้ว ความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไป บางรายอาจรู้สึกแค่ไม่ค่อยคล่องตัว แต่บางรายอาจถึงขั้นนิ้วล็อกติดแน่น ไม่สามารถขยับได้เลย โดยปกติแล้วนิ้วโป้งและนิ้วกลางจะเป็นนิ้วที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ก็อาจเกิดขึ้นกับนิ้วอื่นๆ ได้เช่นกัน

สาเหตุของนิ้วล็อกนั้นมีความซับซ้อน ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ทั้งหมด แต่ปัจจัยเสี่ยงที่พบได้บ่อย ได้แก่ การทำงานที่ต้องใช้มืออย่างหนัก เช่น การเย็บผ้า การพิมพ์ดีด การเล่นดนตรี หรือการทำงานที่ต้องใช้แรงบีบจับเป็นเวลานานๆ การบาดเจ็บที่มือ โรคข้ออักเสบ โรคเบาหวาน และภาวะตั้งครรภ์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง

การวินิจฉัยนิ้วล็อกนั้น แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ซักประวัติอาการ และอาจใช้การตรวจภาพทางการแพทย์ เช่น อัลตราซาวนด์ หรือ MRI เพื่อยืนยันการวินิจฉัย และแยกโรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายคลึงกันออกไป

การรักษาโรคนิ้วล็อกนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ เริ่มจากการรักษาแบบไม่ใช้ยา เช่น การพักผ่อน การประคบเย็น การใช้เครื่องพยุงนิ้ว และการกายภาพบำบัด เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ เพิ่มความคล่องตัวของนิ้วมือ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ หรือในกรณีที่รุนแรง อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อตัดเยื่อหุ้มเส้นเอ็นที่อักเสบออก เพื่อให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือกลับมาเป็นปกติ

สิ่งสำคัญคือ หากคุณมีอาการนิ้วล็อก ไม่ควรปล่อยปละละเลย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความรุนแรงของอาการ และป้องกันไม่ให้โรคเรื้อรัง และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณในระยะยาวได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนิ้วล็อกเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณมีอาการที่น่ากังวล ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับสภาวะของคุณ