บริจาคเลือดทำให้เพลียไหม

บริจาคเลือดแล้วเพลีย? ไขข้อข้องใจและวิธีดูแลตัวเองหลังบริจาค

การบริจาคโลหิตเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ ช่วยต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่ต้องการเลือด แต่หลายคนก็กังวลว่าหลังบริจาคเลือดแล้วจะรู้สึกเพลียหรือไม่? บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังบริจาค เพื่อให้คุณพร้อมทำความดีโดยไม่ต้องกังวล

ความจริงเรื่องอาการอ่อนเพลียหลังบริจาคเลือด

อาการอ่อนเพลียหลังบริจาคเลือดเป็นสิ่งที่พบได้บ้างในบางคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกเช่นนั้น และอาการมักไม่รุนแรง สาเหตุหลักมาจากปริมาณเลือดที่ลดลงชั่วคราว ทำให้ความดันโลหิตอาจลดต่ำลงเล็กน้อย ประกอบกับการที่ร่างกายต้องเริ่มกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่เพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป ทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่ออาการอ่อนเพลีย

• ปริมาณเลือดที่บริจาค: ปริมาณเลือดที่บริจาคโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 350-450 มิลลิลิตร ซึ่งร่างกายสามารถปรับตัวได้ แต่บางคนอาจรู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าคนอื่น
• สภาพร่างกายก่อนบริจาค: หากร่างกายไม่แข็งแรง พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีภาวะโลหิตจางอยู่แล้ว อาจทำให้รู้สึกเพลียมากกว่าปกติหลังบริจาค
• การดูแลตัวเองหลังบริจาค: การพักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากหลังบริจาค จะยิ่งทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย

วิธีดูแลตัวเองหลังบริจาคเลือด เพื่อลดอาการอ่อนเพลีย

• พักผ่อนให้เพียงพอ: หลังบริจาคเลือด ควรหาเวลาพักผ่อนให้เต็มที่ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก หรือการออกกำลังกายหนักในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
• ดื่มน้ำมากๆ: การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยชดเชยปริมาณน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น
• รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก: ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ผักใบเขียวเข้ม จะช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้เร็วขึ้น
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น
• หากรู้สึกเวียนศีรษะ: ให้นั่งหรือนอนพักสักครู่ อาการมักจะดีขึ้นเองได้

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์

หากอาการอ่อนเพลียหลังบริจาคเลือดยาวนานผิดปกติ มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

สรุป

การบริจาคเลือดเป็นการทำความดีที่ยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่าอาจมีอาการอ่อนเพลียบ้างในบางคน แต่ก็เป็นอาการที่ไม่รุนแรงและสามารถดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หากคุณดูแลตัวเองอย่างดีหลังบริจาค ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์