ประจําเดือนสามารถเคลื่อนได้กี่วัน

ประจำเดือนเลื่อน: กี่วันถึงควรเป็นห่วง?

การมีประจำเดือนเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แต่ความสม่ำเสมอของรอบเดือนนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนมีรอบเดือนมาตรงเวลาเป๊ะทุกเดือน ในขณะที่บางคนอาจพบว่ารอบเดือนของตัวเองมีความผันผวนบ้างเล็กน้อย แล้วประจำเดือนเลื่อนได้กี่วันจึงถือว่าผิดปกติ? คำตอบนั้นไม่ตายตัวและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องนี้ได้ชัดเจนขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว รอบประจำเดือนปกติจะอยู่ในช่วง 21-35 วัน นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งหนึ่งไปจนถึงวันแรกของประจำเดือนครั้งถัดไป หากรอบเดือนของคุณอยู่ในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีการเลื่อนไปบ้างเล็กน้อย ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ การเลื่อนเพียง 1-2 วันนั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลมากนัก แต่ถ้าเลื่อนมากกว่านี้ ควรสังเกตอาการอื่นๆ ประกอบด้วย

ปัจจัยที่ทำให้ประจำเดือนเลื่อน:

หลายปัจจัยสามารถส่งผลต่อรอบประจำเดือนได้ และนี่คือบางส่วนที่พบได้บ่อย:

• ความเครียด: ความเครียดทั้งทางกายและทางใจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รอบเดือนผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์ส่วนตัว ล้วนส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกายได้

• การเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก: การลดหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วสามารถทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล ส่งผลให้รอบเดือนเลื่อนหรือผิดปกติได้ การลดน้ำหนักอย่างรุนแรงอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์

• การออกกำลังกายอย่างหนัก: การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่การออกกำลังกายอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวน้อย อาจทำให้รอบเดือนเบาบางลง หรือเลื่อนไปได้

• การเปลี่ยนแปลงยา: การเริ่มหรือหยุดรับประทานยาบางชนิด โดยเฉพาะยาคุมกำเนิด หรือยาบางชนิดที่ส่งผลต่อฮอร์โมน สามารถทำให้รอบเดือนเปลี่ยนแปลงได้

• การตั้งครรภ์: นี่เป็นสาเหตุที่ชัดเจนที่สุดของการที่ประจำเดือนไม่มา หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และประจำเดือนเลื่อนไปนานกว่าปกติ ควรทำการตรวจครรภ์เพื่อความแน่ใจ

• โรคบางชนิด: โรคบางชนิด เช่น โรคต่อมไทรอยด์ โรคพังผืดมดลูก หรือโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ สามารถทำให้รอบเดือนผิดปกติได้

เมื่อใดควรปรึกษาแพทย์:

ถึงแม้การเลื่อนของประจำเดือนเล็กน้อยจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่หากประจำเดือนเลื่อนไปนานกว่า 3 สัปดาห์ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง มีเลือดออกผิดปกติ หรือมีอาการอื่นๆ ที่ผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย การตรวจร่างกายและการตรวจเลือดจะช่วยให้แพทย์หาสาเหตุของปัญหาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้

การเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อรอบเดือน และการสังเกตอาการของตัวเอง จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อใดที่รู้สึกกังวล การปรึกษาแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอ