ปวดข้อพับเข่าด้านในเกิดจากอะไร

1 การดู

ถุงน้ำที่ข้อเข่าด้านในอักเสบเกิดจากการใช้ข้อเข่ามากเกินไปหรือเล่นกีฬาที่ต้องวิ่งและปั่นจักรยาน นอกจากนั้นผู้ที่เป็นโรคอ้วน ข้อเข่าเสื่อม และหมอนรองกระดูกข้อเข่าด้านในฉีกขาดก็เสี่ยงต่อการเกิดถุงน้ำอักเสบเช่นกัน อาการจะแสดงเป็นเข่าบวม ปวดเข่าด้านในใต้ข้อเข่าลงมาเล็กน้อย และปวดมากขึ้นเมื่อเดินขึ้นหรือลงบันได

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดข้อพับเข่าด้านใน: สัญญาณเตือนจากถุงน้ำที่ไม่ควรละเลย

อาการปวดข้อพับเข่าด้านใน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และสร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใต้ข้อพับเข่าลงมาเล็กน้อย ซึ่งหลายครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยจาก “ถุงน้ำบริเวณข้อเข่าด้านในอักเสบ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เบเคอร์ ซีสต์” (Baker’s Cyst)

ถุงน้ำนี้เกิดจากการสะสมของน้ำไขข้อส่วนเกินที่ปูดโปนออกมาบริเวณด้านหลังเข่า โดยมีสาเหตุหลักมาจากการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป หรือการบิดตัวของข้อเข่าอย่างรุนแรง เช่น การเล่นกีฬาที่ต้องวิ่ง กระโดด ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่กิจกรรมที่ต้องงอเข่าบ่อยๆ เช่น การนั่งยองๆ เป็นเวลานาน

กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเกิดถุงน้ำบริเวณข้อเข่าด้านในอักเสบ นอกจากนักกีฬาแล้ว ยังรวมถึง

  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน: น้ำหนักที่มากเกินไปจะสร้างแรงกดทับต่อข้อเข่า เพิ่มโอกาสในการเกิดการอักเสบและบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อ
  • ผู้ที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม: การเสื่อมของกระดูกอ่อนจะส่งผลให้ข้อเข่าเคลื่อนไหวได้ไม่ราบรื่น และเกิดการเสียดสี ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและสะสมของน้ำไขข้อ
  • ผู้ที่หมอนรองกระดูกข้อเข่าด้านในฉีกขาด: อาการนี้มักเกิดจากการบาดเจ็บ ทำให้ข้อเข่าไม่มั่นคงและเกิดการอักเสบตามมา

อาการที่บ่งชี้ว่าคุณอาจมีถุงน้ำบริเวณข้อเข่าด้านในอักเสบ ได้แก่

  • อาการบวมที่บริเวณด้านหลังเข่า: อาจสังเกตเห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบกับเข่าอีกข้าง โดยเฉพาะเมื่อยืดขาตรง
  • อาการปวด: โดยเฉพาะบริเวณใต้ข้อพับเข่าลงมาเล็กน้อย ความปวดจะเพิ่มขึ้นเมื่อข้องอเข่า เดินขึ้น-ลงบันได หรือออกกำลังกาย
  • อาการตึงหรือรู้สึกติดขัดที่ข้อเข่า: ทำให้การเคลื่อนไหวข้อเข่าทำได้ไม่เต็มที่

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณได้ในระยะยาว. แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยยา กายภาพบำบัด หรือในบางกรณี อาจจำเป็นต้องเจาะน้ำในถุงน้ำออก หรือผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหา