ปวดท้องระดับไหนควรไปหาหมอ

ปวดท้อง…เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์? อย่ามองข้ามอาการเล็กๆ

ปวดท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน สาเหตุอาจมาจากการกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ความเครียด หรือแม้แต่การมีประจำเดือน แต่ทว่า ปวดท้องบางประเภทอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว การรู้จักแยกแยะความรุนแรงของอาการปวดท้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้โรคร้ายลุกลาม

แทนที่จะใช้คำว่า “ปวดท้องระดับไหน” ซึ่งค่อนข้างกว้างและไม่ชัดเจน เราควรพิจารณา ลักษณะ และ ความรุนแรง ของอาการ รวมถึง อาการอื่นๆ ที่มาพร้อมกัน เพื่อตัดสินใจว่าควรไปพบแพทย์หรือไม่ ต่อไปนี้เป็นเกณฑ์สำคัญที่ควรพิจารณา:

1. ความรุนแรงและลักษณะของอาการปวด:

• ปวดอย่างรุนแรง ทนไม่ไหว: อาการปวดที่รุนแรงจนทำให้คุณขยับตัวไม่ได้ หายใจลำบาก หรือหมดสติ นับเป็นสัญญาณอันตรายที่ควรไปโรงพยาบาลทันที ไม่ควรประมาทเด็ดขาด
• ปวดอย่างฉับพลันและรุนแรง: การปวดอย่างกะทันหัน รุนแรง และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ปวดท้องเฉียบพลันหลังจากได้รับอุบัติเหตุ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์โดยเร็วที่สุด อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบในช่องท้อง ลำไส้ทะลุ หรือภาวะอื่นๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
• ปวดแบบปวดเกร็ง: อาการปวดแบบเป็นพักๆ มาเป็นช่วงๆ อาจบ่งบอกถึงภาวะลำไส้อักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอื่นๆ
• ปวดท้องเรื้อรัง: ปวดท้องอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน มากกว่า 2 สัปดาห์ โดยไม่ทราบสาเหตุ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง อาจเป็นสัญญาณของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรค Crohn’s disease หรือลำไส้แปรปรวน

2. อาการอื่นๆ ที่มาพร้อมกับอาการปวดท้อง:

• ไข้สูง: อาการปวดท้องร่วมกับไข้สูง อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ เช่น ลำไส้อักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ หรือแม้แต่โรคไส้ติ่งอักเสบ
• อาเจียนอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง: อาเจียนอย่างรุนแรง บ่อยครั้ง และไม่หยุด อาจเป็นสัญญาณของการอุดตันในทางเดินอาหาร หรือการติดเชื้อรุนแรง
• ท้องเสียอย่างรุนแรง: ท้องเสียอย่างรุนแรง ปวดท้องอย่างมาก ร่วมกับอาเจียน อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร
• เลือดออกทางทวารหนักหรือทางช่องคลอด: อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะร้ายแรง เช่น ลำไส้อักเสบ มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือภาวะอื่นๆ ควรไปพบแพทย์ทันที
• ปัสสาวะหรือถ่ายอุจาระลำบาก: อาการเหล่านี้อาจเกิดจากการอุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะหรือทางเดินอาหาร ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์
• คลื่นไส้และอ่อนเพลียอย่างรุนแรง: อาการเหล่านี้เมื่อร่วมกับปวดท้องอาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง

3. ตำแหน่งที่ปวด:

• ปวดท้องน้อยด้านขวา: อาจเป็นสัญญาณของไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

สรุป: อย่าละเลยอาการปวดท้องที่รุนแรง เรื้อรัง หรือมาพร้อมกับอาการอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น การไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ และช่วยให้คุณหายป่วยได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

หมายเหตุ: บทความนี้มีไว้เพื่อให้ความรู้และข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการปวดท้อง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอ