ปากจืดเกิดจากอะไร

0 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

รสชาติอาหารเปลี่ยนไป กลายเป็นจืดชืด อาจไม่ใช่แค่โควิด! อาการปากจืดยังเชื่อมโยงกับการขาดวิตามิน, ภาวะหลังผ่าตัด, โรคลำไส้, โรคบิด หรือแม้แต่มะเร็งบางชนิดได้ ลองสังเกตอาการอื่นร่วมด้วยและปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปากจืด ไม่ใช่แค่รสชาติที่หายไป: สัญญาณเตือนที่ร่างกายอาจกำลังบอกคุณ

อาการ “ปากจืด” ที่รสชาติอาหารเปลี่ยนไป กลายเป็นความจืดชืดไร้รส อาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้นชั่วคราวแล้วหายไปเองเสมอไป แม้ว่าหลายคนอาจนึกถึงการติดเชื้อไวรัส เช่น โควิด-19 เป็นสาเหตุแรกๆ แต่อาการปากจืดยังสามารถเชื่อมโยงกับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ควรให้ความสนใจ และอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่

ปากจืด…มากกว่าที่คุณคิด:

อาการปากจืด เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้รสชาติ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของตัวรับรสบนลิ้น หรือปัญหาที่ระบบประสาทที่ส่งสัญญาณรสชาติไปยังสมอง เมื่อระบบเหล่านี้ทำงานผิดปกติ การรับรู้รสชาติจึงบิดเบือนไป ทำให้รู้สึกว่าอาหารมีรสชาติจืดชืด หรืออาจรู้สึกว่ามีรสชาติแปลกปลอมที่ไม่พึงประสงค์

สาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการปากจืด:

  • การขาดวิตามินและแร่ธาตุ: วิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น สังกะสี (Zinc) วิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการทำงานของตัวรับรส หากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้ ก็อาจส่งผลต่อการรับรู้รสชาติได้
  • ผลข้างเคียงจากยา: ยาหลายชนิดสามารถส่งผลกระทบต่อการรับรู้รสชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด หรือยาที่ใช้รักษาโรคเรื้อรังบางชนิด การรับประทานยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการปากจืดได้
  • ภาวะหลังผ่าตัด: โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับศีรษะ คอ หรือช่องปาก อาจส่งผลต่อเส้นประสาทที่ควบคุมการรับรู้รสชาติ ทำให้เกิดอาการปากจืดหลังผ่าตัด
  • ปัญหาระบบทางเดินอาหาร: โรคลำไส้อักเสบ (Inflammatory Bowel Disease – IBD) โรคบิด หรือแม้แต่ภาวะกรดไหลย้อน สามารถส่งผลกระทบต่อการดูดซึมสารอาหาร และอาจส่งผลต่อการรับรู้รสชาติได้
  • การติดเชื้อ: นอกเหนือจากโควิด-19 การติดเชื้ออื่นๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือการติดเชื้อในช่องปาก ก็สามารถทำให้เกิดอาการปากจืดได้เช่นกัน
  • ความผิดปกติทางระบบประสาท: โรคทางระบบประสาทบางชนิด เช่น โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) หรือภาวะสมองเสื่อม อาจส่งผลต่อการรับรู้รสชาติ
  • โรคมะเร็ง: มะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งที่ศีรษะและลำคอ หรือการรักษาด้วยเคมีบำบัดและรังสีรักษา สามารถส่งผลต่อการรับรู้รสชาติได้
  • อายุที่มากขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น จำนวนของตัวรับรสบนลิ้นจะลดลง ทำให้การรับรู้รสชาติลดลงตามไปด้วย
  • ภาวะขาดน้ำ: การดื่มน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้ลิ้นแห้งและส่งผลต่อการรับรู้รสชาติ

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์:

หากอาการปากจืดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลด อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือมีอาการปวดท้อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง แพทย์อาจทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด หรือการตรวจอื่นๆ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

อย่ามองข้ามสัญญาณ:

อาการปากจืดอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ การสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย และปรึกษาแพทย์เมื่อจำเป็น จะช่วยให้คุณได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีและความสุขในการรับประทานอาหารของคุณให้กลับคืนมา