ผลตรวจเลือดอยู่ได้กี่วัน

12 การดู

ผลตรวจเลือดแต่ละชนิดมีอายุการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน การตรวจเอนไซม์ตับเก็บได้ 24 ชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง ค่าโปรตีนเก็บได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง ส่วนค่าน้ำดี (บิลิรูบิน) เก็บได้นานถึง 3 วัน การเก็บในตู้เย็นจะยืดอายุการเก็บได้นานขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผลตรวจเลือด… เก็บไว้นานแค่ไหนถึงยังใช้ได้? คำตอบที่ซับซ้อนกว่าที่คิด

การตรวจเลือดเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยโรค และหลายคนมักสงสัยว่าผลตรวจเลือดที่ได้มานั้นสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเท่าใด ก่อนที่จะสูญเสียความถูกต้องและนำไปสู่การวินิจฉัยที่คลาดเคลื่อน คำตอบนั้นไม่ได้ตายตัว และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงชนิดของการตรวจ วิธีการเก็บรักษา และอุณหภูมิในการเก็บรักษา

ความเชื่อที่ว่า “ผลตรวจเลือดเก็บได้นาน” หรือ “เก็บได้ไม่กี่วัน” นั้นอาจไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะความจริงแล้ว แต่ละรายการตรวจในผลเลือดมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างมาก การนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปใช้ในการรักษาอาจนำไปสู่ผลเสียได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเข้าใจรายละเอียดให้ถ่องแท้

ตัวอย่างเช่น บางรายการตรวจอาจมีอายุการเก็บรักษาสั้นมาก เช่น การตรวจวัดระดับโปรตีนบางชนิด ที่อาจเสื่อมสลายอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหากไม่ได้เก็บรักษาในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ในขณะที่รายการอื่นๆ เช่น การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด อาจมีความเสถียรมากกว่าและเก็บได้นานขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในด้านเวลาเช่นกัน

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการเก็บรักษาของผลตรวจเลือด ได้แก่:

  • ชนิดของการตรวจ: นี่คือปัจจัยหลัก การตรวจวัดสารต่างๆ ในเลือดมีความเสถียรแตกต่างกัน บางชนิดเสื่อมสลายได้ง่าย บางชนิดคงสภาพได้นานกว่า
  • วิธีการเก็บรักษา: การเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น การแช่เย็น เป็นสิ่งสำคัญ อุณหภูมิที่สูงกว่าปกติจะเร่งกระบวนการเสื่อมสลายของสารต่างๆ ในทางกลับกัน อุณหภูมิที่ต่ำเกินไปก็อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีได้เช่นกัน
  • ชนิดของหลอดเก็บเลือด: หลอดเก็บเลือดบางชนิดมีสารกันบูดหรือสารเพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของตัวอย่างเลือดได้

แทนที่จะให้ข้อมูลที่อาจคลาดเคลื่อน เช่น “ผลตรวจเลือดเก็บได้ 3 วัน” ซึ่งใช้ไม่ได้กับทุกชนิดการตรวจ ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการโดยตรง เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเก็บรักษาผลตรวจเลือดแต่ละรายการ และระยะเวลาที่ผลตรวจยังคงมีความถูกต้อง เนื่องจากข้อมูลที่ถูกต้องและทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญในการวินิจฉัยและรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ ควรเน้นย้ำว่า การเก็บรักษาผลตรวจเลือดอย่างถูกวิธี ไม่ใช่แค่การเก็บไว้ให้ได้นานที่สุด แต่เป็นการรักษาความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูล เพื่อให้แพทย์สามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป