ผายปอดกี่ครั้ง

2 การดู

การช่วยชีวิตผู้หมดสติเริ่มด้วยการตรวจสอบการหายใจและการตอบสนอง หากไม่หายใจ ให้เป่าลมเข้าปอด 2 ครั้ง ตามด้วยการกดหน้าอก 30 ครั้ง ทำซ้ำอย่างน้อย 5 รอบ ประเมินอาการอย่างต่อเนื่อง และทำซ้ำจนกว่าผู้ป่วยฟื้นหรือมีเจ้าหน้าที่การแพทย์มาถึง ควรโทรเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผายปอดกี่ครั้ง? ความเข้าใจที่ถูกต้องในการช่วยชีวิตเบื้องต้น

การช่วยชีวิตผู้หมดสติเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการการปฏิบัติที่ถูกต้องและรวดเร็ว คำถามที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งคือ “ต้องผายปอดกี่ครั้ง?” คำตอบไม่ใช่ตัวเลขตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support: BLS) ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งปัจจุบันเน้นการกดหน้าอกเป็นหลัก

บทความนี้จะอธิบายจำนวนครั้งในการผายปอดตามแนวทางการช่วยชีวิตที่ทันสมัย โดยจะไม่เน้นเพียงแค่ตัวเลข แต่จะเน้นถึงความสำคัญของการประเมินสถานการณ์และการปฏิบัติที่ถูกต้องตามลำดับขั้นตอน

การช่วยชีวิตผู้ใหญ่ที่หมดสติและไม่หายใจ:

การช่วยชีวิตเริ่มต้นด้วยการ ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์ ก่อนเสมอ ตรวจสอบบริเวณโดยรอบว่ามีความปลอดภัยต่อทั้งผู้ช่วยเหลือและผู้ป่วยหรือไม่ จากนั้นจึงตรวจสอบการหายใจและการตอบสนองของผู้ป่วย หากไม่หายใจหรือหายใจไม่เป็นปกติ (เช่น หายใจช้าเกินไป หายใจเร็วเกินไป หรือหายใจไม่เต็มปอด) ให้ดำเนินการดังนี้:

  1. โทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (เช่น 1669) โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ การแจ้งหน่วยแพทย์เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เพราะการช่วยเหลืออย่างมืออาชีพเท่านั้นที่จะรับประกันโอกาสการรอดชีวิตสูงสุด

  2. ตรวจสอบการหายใจ: ดูการเคลื่อนไหวของหน้าอก ฟังเสียงหายใจ และรู้สึกถึงลมหายใจ ใช้เวลาไม่เกิน 10 วินาที

  3. หากไม่หายใจ ให้ผายปอด 2 ครั้ง: แต่ละครั้งควรเป่าลมจนเห็นหน้าอกขยายขึ้น การเป่าลมต้องทำอย่างถูกวิธี เพื่อให้ลมเข้าสู่ปอดอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้วิธีผายปอดอย่างถูกต้องจากหลักสูตรการช่วยชีวิตเบื้องต้น (BLS) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

  4. กดหน้าอก 30 ครั้ง: ใช้แรงกดที่เพียงพอเพื่อให้หน้าอกยุบลงอย่างน้อย 5 เซนติเมตร จังหวะการกดควรเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ และกดตรงกลางหน้าอก

  5. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 และ 4 อย่างน้อย 5 รอบ: หมายถึงผายปอด 2 ครั้ง และกดหน้าอก 30 ครั้ง ทำซ้ำอย่างต่อเนื่องจนกว่าผู้ป่วยฟื้นหรือมีเจ้าหน้าที่การแพทย์มาถึง

สิ่งที่ควรระลึก:

  • อัตราส่วนการผายปอดต่อการกดหน้าอก 2:30 (สำหรับผู้ใหญ่) อาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามแนวทางการช่วยชีวิตที่อัพเดทล่าสุด การเรียนรู้จากหลักสูตร BLS ที่ได้รับการรับรองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
  • การกดหน้าอกมีความสำคัญมากกว่าการผายปอด เนื่องจากการกดหน้าอกช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองและหัวใจได้ดีกว่า
  • ควรเรียนรู้ BLS จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถปฏิบัติการช่วยชีวิตได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

บทความนี้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการช่วยชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่การแทนที่การฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ การเรียนรู้วิธีการช่วยชีวิตอย่างถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการช่วยชีวิตที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายมากยิ่งขึ้น ขอให้ทุกท่านหาโอกาสเรียนรู้ BLS เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นในยามฉุกเฉิน