ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ส่วนใหญ่มีอาการอย่างไร

ไข้หวัดใหญ่ A: มากกว่าแค่หวัดธรรมดา รู้จักอาการสำคัญเพื่อรับมืออย่างถูกวิธี

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสอินฟลูเอนซา A แม้ว่าหลายคนจะเรียกติดปากว่า “หวัด” แต่ความรุนแรงและอาการของไข้หวัดใหญ่ A นั้นแตกต่างจากหวัดธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด การเข้าใจลักษณะอาการที่เด่นชัดจะช่วยให้เราสามารถรับมือและป้องกันการแพร่กระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แตกต่างจากอาการหวัดทั่วไปที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไข้หวัดใหญ่ A มักจะแสดงอาการรวดเร็วและรุนแรงกว่า โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากการติดเชื้อ อาการสำคัญที่บ่งบอกถึงไข้หวัดใหญ่ A ได้แก่:

• ไข้สูง: ไข้สูงเป็นอาการเด่นชัดที่สุดของไข้หวัดใหญ่ A อุณหภูมิร่างกายอาจสูงถึง 38 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า ความรุนแรงของไข้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

• หนาวสั่น: ร่วมกับไข้สูง ผู้ป่วยมักจะรู้สึกหนาวสั่นอย่างรุนแรง แม้จะอยู่ในสภาพอากาศที่อบอุ่นก็ตาม

• ปวดหัวรุนแรง: ไม่ใช่ปวดหัวธรรมดา แต่เป็นปวดหัวอย่างรุนแรง อาจปวดตุบๆ หรือปวดแบบกดทับ รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้

• ปวดเมื่อยตามตัว: อาการนี้เป็นลักษณะเฉพาะของไข้หวัดใหญ่ A ความปวดเมื่อยอาจเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก

นอกจากอาการหลักๆ แล้ว ผู้ป่วยบางรายอาจพบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น:

• น้ำมูกไหล: อาจเป็นน้ำมูกใสหรือขุ่น แตกต่างจากอาการหวัดธรรมดาที่มักเป็นน้ำมูกใส

• ไอแห้ง: ไอที่แห้งและไม่มีเสมหะ อาจรุนแรงและทำให้เหนื่อยล้า

• เจ็บคอ: รู้สึกเจ็บแสบหรือระคายเคืองที่ลำคอ

• คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย: โดยเฉพาะในเด็กเล็ก อาการเหล่านี้มักเกิดร่วมกับไข้หวัดใหญ่ A

โดยทั่วไปแล้ว อาการของไข้หวัดใหญ่ A จะบรรเทาลงภายใน 7-10 วัน แต่ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาจคงอยู่ได้นานกว่านั้น หากอาการรุนแรงขึ้น เช่น ไข้สูงไม่ลด หายใจลำบาก หรือมีอาการอื่นๆ ที่น่ากังวล ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง การรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการดื่มน้ำมากๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

การป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และปฏิบัติตามมาตรการอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เช่น การล้างมือบ่อยๆ การปิดปากปิดจมูกเมื่อไอหรือจาม เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อและแพร่กระจายโรคต่อไป