มีวิธีลดโซเดียมอย่างไรบ้าง

2 การดู

เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ปรุงอาหารเอง เน้นการใช้สมุนไพรไทยแทนการปรุงรสเค็มจัด เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ลองปรุงอาหารด้วยวิธีการต้ม นึ่ง ย่าง แทนการทอด อ่านฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์อาหารเพื่อเปรียบเทียบปริมาณโซเดียมก่อนซื้อ ค่อยๆ ลดปริมาณเกลือที่ใช้ในการปรุงอาหารลงทีละน้อยจนชินกับรสชาติที่จืดกว่า

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ลดโซเดียม…ลดโรคภัย เริ่มง่ายๆ จากครัวของคุณ

โซเดียม สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หากบริโภคมากเกินไปกลับกลายเป็นภัยเงียบที่คืบคลานเข้ามาทำลายสุขภาพ ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต และอื่นๆ ดังนั้น การควบคุมปริมาณโซเดียมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนควรใส่ใจ และวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับวิธีการลดโซเดียมในชีวิตประจำวันกันอย่างง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องอดอาหารหรือเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง

1. ครัวบ้านเรา…แหล่งสร้างสุขภาพที่ดี:

วิธีลดโซเดียมที่ได้ผลดีที่สุดคือการเริ่มต้นจากการปรุงอาหารเองที่บ้าน เพราะจะสามารถควบคุมปริมาณโซเดียมได้อย่างแม่นยำ เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ เน้นผัก ผลไม้หลากสีสัน ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญคือ ลดการพึ่งพาอาหารสำเร็จรูปซึ่งมักอุดมไปด้วยโซเดียมสูง

2. สมุนไพรไทย…เครื่องปรุงรสชาติสุขภาพ:

แทนที่จะพึ่งพาเกลือเป็นหลักในการปรุงรส ลองหันมาใช้สมุนไพรไทยกันดูบ้าง เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบกะเพรา พริกสด และเครื่องเทศต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มความหอม อร่อย และสีสันให้กับอาหารได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างกลิ่นและรสชาติที่หลากหลาย ทำให้การรับประทานอาหารไม่น่าเบื่อ และที่สำคัญคือ สมุนไพรเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงร่างกายได้อีกด้วย

3. วิธีการปรุงอาหาร…มีส่วนสำคัญ:

การเลือกวิธีการปรุงอาหารก็มีผลต่อปริมาณโซเดียมเช่นกัน ควรเลือกวิธีการปรุงอาหารที่ไม่จำเป็นต้องใช้เกลือหรือน้ำปลาในการปรุงมาก เช่น การต้ม นึ่ง หรือย่าง ซึ่งจะช่วยรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้มาก และลดปริมาณโซเดียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการทอดซึ่งมักใช้น้ำมันและเกลือในปริมาณสูง

4. อ่านฉลาก…ก่อนตัดสินใจซื้อ:

ก่อนซื้ออาหารสำเร็จรูปหรืออาหารแปรรูปต่างๆ ควรหมั่นอ่านฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์อย่างละเอียด เปรียบเทียบปริมาณโซเดียมในแต่ละยี่ห้อ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ หรือเลือกสินค้าที่ระบุว่า “โซเดียมต่ำ” “ลดโซเดียม” หรือ “ไร้โซเดียม” เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม

5. ค่อยเป็นค่อยไป…ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน:

การลดปริมาณโซเดียมไม่ใช่เรื่องง่าย ควรค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินทีละน้อย เริ่มจากลดปริมาณเกลือที่ใช้ในการปรุงอาหารลง โดยลดลงทีละน้อยจนกว่าจะชินกับรสชาติที่จืดกว่า ร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวได้ และจะรู้สึกอร่อยกับรสชาติที่ไม่เค็มจัดในที่สุด

การลดโซเดียมเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยวิธีเหล่านี้ เพื่อชีวิตที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย และอายุยืนยาว