ยา คุม แบบ 21 กับ 28 เม็ด ต่าง กัน อย่างไร

ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด เทียบกับ 28 เม็ด: ความแตกต่างที่คุณควรรู้

ยาคุมกำเนิดเป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางซึ่งใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง ยาคุมกำเนิดมีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป

ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด

ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ดประกอบด้วยเม็ดยาที่ใช้งานอยู่ 21 เม็ด ซึ่งมีฮอร์โมนที่ป้องกันการตั้งครรภ์ เมื่อรับประทานยาครบ 21 วัน ให้หยุดรับประทานยาเป็นเวลา 7 วัน ในช่วงเวลานี้ คุณจะประจำเดือน จากนั้นเริ่มรับประทานยาแผงใหม่เมื่อครบ 7 วัน

ข้อดีของยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด

• ช่วยลดระยะเวลาการมีประจำเดือนและทำให้การมีประจำเดือนสม่ำเสมอขึ้น
• ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและภาวะก่อนมีประจำเดือน (PMS)
• ช่วยรักษาสิวและอาการผิวอื่นๆ ที่เกิดจากฮอร์โมน

ข้อเสียของยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด

• ต้องจำรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกวันมิฉะนั้นประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะลดลง
• ต้องเว้นระยะ 7 วันระหว่างแผง ซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกกะปริดกะปรอยได้

ยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด

ยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ดมีเม็ดยาที่ใช้งานอยู่ 21 เม็ดเช่นเดียวกับแบบ 21 เม็ด แต่จะมีเม็ดยาหลอกอีก 7 เม็ด โดยเม็ดยาหลอกเหล่านี้ไม่มีฮอร์โมน เมื่อรับประทานครบ 28 วัน ให้เริ่มรับประทานแผงใหม่ได้เลยโดยไม่ต้องเว้นระยะ

ข้อดีของยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด

• ไม่ต้องจำรับประทานยาให้ตรงเวลาเท่ากับแบบ 21 เม็ด
• ไม่ต้องเว้นระยะระหว่างแผง จึงไม่เกิดเลือดออกกะปริดกะปรอย

ข้อเสียของยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด

• อาจทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยหรือมีจุดด่างพร้อยมากกว่าแบบ 21 เม็ด
• อาจทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น คลื่นไส้หรือเจ็บเต้านม

ข้อควรพิจารณาอื่นๆ

เมื่อเลือกประเภทของยาคุมกำเนิด คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

• ประวัติการแพ้ยา
• อาการทางการแพทย์อื่นๆ
• การใช้ยาอื่นๆ
• ความต้องการและไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล

โดยทั่วไป ยาคุมกำเนิดทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงเท่ากัน แต่ยาแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกประเภทที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการคุมกำเนิด