ยา cloxacillin 500 mg คืออะไร

2 การดู

คลอกซาซิลิน 500 มิลลิกรัม เป็นยาปฏิชีวนะชนิดแคปซูล ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ควรทานตามแพทย์สั่ง ผลข้างเคียงอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย หากมีอาการไม่พึงประสงค์ควรแจ้งแพทย์ทันที ยาไม่เหมาะสำหรับผู้แพ้ยาเพนิซิลลิน ควรเก็บยาให้พ้นมือเด็ก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คลอกซาซิลลิน 500 มก.: ยาปฏิชีวนะเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรีย

คลอกซาซิลลิน 500 มิลลิกรัม เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลินที่ออกฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรียแกรมบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อ Staphylococcus ซึ่งมักเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่ผิวหนัง เนื้อเยื่ออ่อน กระดูก และข้อต่อ ยาชนิดนี้ทำงานโดยการยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตและตายในที่สุด คลอกซาซิลลินมีจำหน่ายในรูปแบบแคปซูลเพื่อรับประทาน

การใช้งานคลอกซาซิลลิน 500 มก.:

แพทย์จะสั่งจ่ายคลอกซาซิลลิน 500 มก. เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่อยา เช่น:

  • การติดเชื้อที่ผิวหนัง: ฝี หนอง เซลลูไลติส
  • การติดเชื้อของเนื้อเยื่ออ่อน: การติดเชื้อที่กล้ามเนื้อ
  • การติดเชื้อของกระดูกและข้อต่อ: กระดูกอักเสบ ข้ออักเสบติดเชื้อ
  • การติดเชื้ออื่นๆ: ตามดุลยพินิจของแพทย์

การรับประทานยา:

การรับประทานคลอกซาซิลลิน 500 มก. ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยทั่วไปจะรับประทานวันละ 4 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหาร ควรทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม การหยุดยาเองก่อนกำหนดอาจทำให้การติดเชื้อกลับมาเป็นซ้ำได้และทำให้เชื้อดื้อยาได้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น:

แม้ว่าคลอกซาซิลลินจะเป็นยาที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกับยาอื่นๆ ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ระบบทางเดินอาหาร: คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง
  • อาการแพ้: ผื่นคัน บวม หายใจลำบาก หากมีอาการแพ้ยาควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ข้อควรระวัง:

  • ผู้ที่แพ้ยาเพนิซิลลิน: ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่แพ้ยาเพนิซิลลินหรือยาปฏิชีวนะในกลุ่มเบต้า-แลคแทม
  • หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
  • โรคตับหรือไต: ควรแจ้งแพทย์หากมีประวัติโรคตับหรือไต
  • การใช้ยาอื่นๆ: ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาอื่นๆ ที่กำลังรับประทาน รวมถึงวิตามินและอาหารเสริม เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยา

การเก็บรักษายา:

ควรเก็บยาคลอกซาซิลลิน 500 มก. ไว้ในที่แห้งและเย็น ห่างจากแสงแดดและความชื้น และเก็บให้พ้นมือเด็ก

ข้อควรจำ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ