ระดับน้ําตาลในเลือดเท่าไหร่ถึงต้องฉีดอินซูลิน

2 การดู

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 300 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ควรตรวจสอบคีโตนในปัสสาวะ หากไม่พบหรือตรวจไม่ได้ แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ และติดต่อแพทย์หรือพยาบาลทันที การฉีดอินซูลินควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าพึ่งการตัดสินใจด้วยตนเอง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง: เมื่อไหร่ที่อินซูลินคือทางออก?

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะต้องฉีดอินซูลินเมื่อใดนั้น เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจและความระมัดระวังอย่างมาก ไม่สามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้โดยเด็ดขาด

ระดับน้ำตาลในเลือดสูง: สัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ

โดยทั่วไป หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 300 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในระดับนี้ อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำมาก ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

เมื่อระดับน้ำตาลสูงเกิน 300 mg/dL สิ่งที่ควรทำคือ:

  1. ตรวจสอบคีโตนในปัสสาวะ: คีโตนเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อไม่มีอินซูลินเพียงพอในการนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน การตรวจพบคีโตนในปัสสาวะบ่งบอกถึงภาวะที่เรียกว่า “ภาวะคีโตนคั่งในเลือด” (Diabetic Ketoacidosis – DKA) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
  2. ดื่มน้ำมากๆ: การดื่มน้ำมากๆ ช่วยเจือจางระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  3. ติดต่อแพทย์หรือพยาบาลทันที: สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลเพื่อประเมินสถานการณ์และรับคำแนะนำที่เหมาะสม อย่าพยายามตัดสินใจหรือรักษาด้วยตนเอง

อินซูลิน: ไม่ใช่ทางออกเดียวสำหรับทุกคน

ถึงแม้ว่าอินซูลินจะเป็นยาหลักในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และเป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 บางราย แต่การฉีดอินซูลินไม่ใช่ทางออกเดียวสำหรับทุกคน และไม่ควรตัดสินใจฉีดอินซูลินด้วยตนเอง การฉีดอินซูลินโดยไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์ อาจนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตได้

การตัดสินใจฉีดอินซูลิน: เรื่องที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาปัจจัยหลายอย่างก่อนตัดสินใจว่าจะต้องฉีดอินซูลินหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้รวมถึง:

  • ชนิดของโรคเบาหวาน: ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 มักจะต้องฉีดอินซูลินเพื่อดำรงชีวิต ในขณะที่ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อาจสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร และการใช้ยาอื่นๆ
  • ระดับน้ำตาลในเลือด: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอย่างต่อเนื่อง แม้จะพยายามควบคุมด้วยวิธีอื่นๆ แล้ว อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องใช้อินซูลิน
  • ภาวะสุขภาพอื่นๆ: ผู้ป่วยที่มีภาวะสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคไต หรือโรคหัวใจ อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในการปรับปริมาณอินซูลิน
  • การตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ: หากการรักษาด้วยยาอื่นๆ หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ แพทย์อาจพิจารณาใช้อินซูลิน

สรุป

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจ แต่การตัดสินใจว่าจะต้องฉีดอินซูลินหรือไม่นั้น ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าตัดสินใจด้วยตนเอง การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

คำเตือน: ข้อมูลที่กล่าวมานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวินิจฉัยหรือรักษาโรค โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอ หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ