วิตกกังวล กับแพนิคเหมือนกันไหม

5 การดู

แม้โรควิตกกังวลและโรคแพนิคจะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ โรควิตกกังวลคือความกังวลเรื้อรังต่อเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ส่วนโรคแพนิคคืออาการหวาดกลัวฉับพลันรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ การเข้าใจความต่างช่วยให้รับมือได้อย่างเหมาะสมและเลือกวิธีรักษาที่ตรงจุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรควิตกกังวลและโรคแพนิค: เหมือนหรือต่างกัน

แม้ว่าโรควิตกกังวลและโรคแพนิคจะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ ดังนี้

โรควิตกกังวล

โรควิตกกังวลเป็นความวิตกกังวลเรื้อรังต่อเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเงิน ความสัมพันธ์ สุขภาพ หรือภัยพิบัติธรรมชาติ ความวิตกกังวลนี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจวัตรประจำวันและความเป็นอยู่โดยรวมของบุคคล

อาการของโรควิตกกังวล

  • ความวิตกกังวลและความกังวลอย่างต่อเนื่อง
  • ความหงุดหงิดหรือความกระวนกระวายใจ
  • ความเหนื่อยล้าและความเมื่อยล้า
  • ปัญหาการนอนหลับ
  • ความยากลำบากในการจดจ่อหรือคิด
  • ความหงุดหงิดของกล้ามเนื้อ
  • อาการทางร่างกายอื่นๆ เช่น เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว และหายใจถี่

โรคแพนิค

โรคแพนิคเป็นอาการหวาดกลัวฉับพลันรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการเหล่านี้อาจกินเวลา 2-30 นาที และอาจเกิดขึ้นพร้อมกับหรือไม่พร้อมกับอาการวิตกกังวล

อาการของโรคแพนิค

  • หัวใจเต้นเร็วหรือหัวใจเต้นแรง
  • เหงื่อออก
  • มือสั่น
  • ความรู้สึกหนาวหรือร้อนวูบวาบ
  • หายใจถี่
  • ความรู้สึกหายใจไม่ออก
  • เจ็บหน้าอกหรือไม่สบาย
  • คลื่นไส้
  • เวียนหัว
  • ความรู้สึกแยกออกจากความเป็นจริง (depersonalization)
  • กลัวที่จะเสียการควบคุมหรือเป็นบ้า

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างโรควิตกกังวลและโรคแพนิค

  • ความถี่และความรุนแรง: โรควิตกกังวลเป็นความวิตกกังวลเรื้อรังที่มีความรุนแรงน้อยกว่า ขณะที่โรคแพนิคเป็นอาการหวาดกลัวฉับพลันรุนแรง
  • ปัจจัยกระตุ้น: โรควิตกกังวลมักกระตุ้นโดยสถานการณ์หรือความคิดที่เฉพาะเจาะจง ส่วนโรคแพนิคอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน
  • ระยะเวลา: อาการวิตกกังวลอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือเป็นวัน ขณะที่อาการแพนิคจะหายไปภายในไม่กี่นาที
  • ผลกระทบต่อกิจวัตรประจำวัน: โรควิตกกังวลอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจวัตรประจำวันขณะที่โรคแพนิคอาจมีผลกระทบต่อสถานการณ์เฉพาะ

การวินิจฉัยและการรักษา

การวินิจฉัยทั้งโรควิตกกังวลและโรคแพนิคทำได้โดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต การรักษาอาจรวมถึงการบำบัด การใช้ยา หรือการผสมผสานของทั้งสองอย่าง การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความรุนแรงและลักษณะของอาการของแต่ละบุคคล

การเข้าใจความแตกต่างระหว่างโรควิตกกังวลและโรคแพนิค

ความเข้าใจความแตกต่างระหว่างโรควิตกกังวลและโรคแพนิคเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรับมือและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ การระบุอาการโดยเฉพาะและรับทราบว่าอาการใดมีความถี่และความรุนแรงสามารถช่วยให้บุคคลได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รับแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น