สถานการณ์ใดบ้างที่ต้องทำ CPR

0 การดู

เมื่อพบผู้หมดสติ ไม่หายใจ หรือหายใจเฮือก ให้รีบขอความช่วยเหลือและเริ่ม CPR ทันที กรณีฉุกเฉิน เช่น จมน้ำ, หัวใจวาย, สำลัก, ไฟไหม้, หรืออุบัติเหตุที่ส่งผลต่อการหายใจและหัวใจ ควรทำการ CPR เพื่อช่วยชีวิตจนกว่าทีมแพทย์จะมาถึง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

CPR: กู้ชีพฉุกเฉินในสถานการณ์วิกฤต เมื่อลมหายใจริบหรี่ ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย

CPR หรือ Cardiopulmonary Resuscitation คือการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานที่สำคัญยิ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ลมหายใจของใครบางคนกำลังจะดับมอด CPR คือความหวังสุดท้ายที่อาจพลิกฟื้นชีวิตให้กลับคืนมาได้ แม้ว่าความรู้เรื่อง CPR จะแพร่หลายมากขึ้น แต่การตระหนักถึงสถานการณ์ที่ต้องลงมือปฏิบัติอย่างเร่งด่วนนั้นสำคัญยิ่งกว่า

CPR คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

CPR คือการปั๊มหัวใจและผายปอดเพื่อช่วยให้เลือดและออกซิเจนไหลเวียนไปเลี้ยงสมองและอวัยวะสำคัญอื่นๆ ในร่างกาย เมื่อหัวใจหยุดเต้นหรือการหายใจล้มเหลว สมองจะขาดออกซิเจนและเริ่มเสียหายภายในไม่กี่นาที หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อสมองอย่างถาวร หรือเสียชีวิตได้

เมื่อไหร่ที่ต้องทำ CPR?

หัวใจของการทำ CPR คือการลงมือปฏิบัติอย่างรวดเร็วเมื่อพบเจอกับบุคคลที่อยู่ในภาวะวิกฤต สถานการณ์ที่จำเป็นต้องทำ CPR ได้แก่:

  • หมดสติ ไม่ตอบสนอง: หากพบใครบางคนนอนหมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองต่อการเรียกหรือการสัมผัส นี่คือสัญญาณเตือนที่ต้องรีบเข้าช่วยเหลือ
  • ไม่หายใจ หรือหายใจเฮือก (Agonal Breathing): การหายใจเฮือกเป็นการหายใจที่ผิดปกติ มักเกิดขึ้นหลังจากหัวใจหยุดเต้น ลักษณะคือหายใจช้าๆ ลึกๆ และไม่สม่ำเสมอ คล้ายกับการพยายามหายใจครั้งสุดท้าย หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบทำการ CPR ทันที
  • หัวใจหยุดเต้น: แม้ว่าการตรวจชีพจรอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนถนัด แต่หากมั่นใจว่าไม่มีชีพจร (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณคอ) ร่วมกับอาการหมดสติและไม่หายใจ นั่นบ่งชี้ว่าหัวใจอาจหยุดเต้น
  • เหตุการณ์ฉุกเฉินเฉพาะหน้า: สถานการณ์บางอย่างมีความเสี่ยงสูงที่จะนำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นหรือการหายใจล้มเหลว เช่น:
    • จมน้ำ: การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำทำให้หัวใจหยุดเต้นได้อย่างรวดเร็ว
    • หัวใจวาย/อาการเจ็บหน้าอกรุนแรง: อาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นได้
    • สำลัก: การที่สิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้ขาดออกซิเจนและอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้น
    • ไฟไหม้/การสูดดมควันพิษ: ควันพิษทำให้ระบบหายใจล้มเหลว และอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
    • อุบัติเหตุรุนแรง: โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อศีรษะ หน้าอก หรือระบบหายใจ

สิ่งสำคัญที่ต้องทำเมื่อพบผู้ป่วยฉุกเฉิน

  1. ตรวจสอบความปลอดภัย: ก่อนเข้าช่วยเหลือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณนั้นปลอดภัยสำหรับทั้งคุณและผู้ป่วย
  2. ขอความช่วยเหลือ: โทร 1669 หรือเบอร์ฉุกเฉินอื่นๆ ทันที แจ้งรายละเอียดของสถานการณ์ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และจำนวนผู้บาดเจ็บ
  3. เริ่ม CPR: ในขณะที่รอทีมแพทย์มาถึง ให้เริ่มทำ CPR อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่การปั๊มหน้าอกอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
  4. ใช้เครื่อง AED (Automated External Defibrillator) หากมี: เครื่อง AED เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า หากมีเครื่อง AED ในบริเวณใกล้เคียง ให้รีบนำมาใช้งานตามคำแนะนำ

ข้อควรจำ:

  • การฝึกอบรม CPR จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง
  • อย่ากลัวที่จะลงมือทำ CPR ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มั่นใจในทักษะของตัวเอง การช่วยเหลือเบื้องต้นย่อมดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย
  • CPR เป็นเพียงการประคองอาการจนกว่าทีมแพทย์จะมาถึง การดูแลรักษาขั้นสูงโดยผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการฟื้นตัวของผู้ป่วย

CPR ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะรักษาได้ทุกโรค แต่เป็นการให้โอกาสครั้งที่สองแก่ชีวิต การเรียนรู้และเข้าใจสถานการณ์ที่ต้องทำ CPR จะช่วยให้คุณสามารถเป็นฮีโร่ในชีวิตจริง ช่วยต่อลมหายใจและมอบความหวังให้แก่ผู้อื่นในยามวิกฤต