อมอะไรทําให้ฟันผุได้บ้าง
หลีกเลี่ยงขนมหวานเหนียวติดฟัน เช่น เยลลี่ ผลไม้เชื่อม หรือลูกอมที่มีส่วนผสมของแป้ง เพราะเศษอาหารเหล่านี้จะเกาะติดแน่นตามซอกฟัน เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดกรดกัดกร่อนเคลือบฟันและทำให้ฟันผุได้ง่ายกว่าขนมประเภทอื่นๆ
อันตรายแฝงจาก “อม” ที่คุณอาจมองข้าม: ไม่ใช่แค่ลูกอมที่ทำให้ฟันผุ!
หลายคนคงทราบกันดีว่าลูกอมเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฟันผุ แต่รู้หรือไม่ว่าการ “อม” อะไรบางอย่างเป็นเวลานานๆ ก็สามารถทำลายฟันของคุณได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งสิ่งของที่ดูเหมือนจะไม่มีพิษภัยอะไร
ทำไมการ “อม” ถึงเสี่ยงฟันผุ?
เหตุผลสำคัญอยู่ที่ระยะเวลาที่ฟันสัมผัสกับน้ำตาลหรือกรด ยิ่งนานเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ลองนึกภาพตามว่า เมื่อเราอมอะไรก็ตามที่มีน้ำตาล แบคทีเรียในช่องปากก็จะเริ่มกระบวนการย่อยสลายน้ำตาลเหล่านั้น และปล่อยกรดออกมา กรดนี้จะกัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้เกิดรอยผุเล็กๆ หากปล่อยไว้นาน รอยผุจะลุกลามจนกลายเป็นปัญหาใหญ่
ภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในการ “อม” ที่คุณอาจไม่เคยรู้
-
เครื่องดื่มรสเปรี้ยว: หลายคนชอบจิบน้ำผลไม้ น้ำมะนาว หรือเครื่องดื่มอัดลมรสเปรี้ยวตลอดทั้งวัน ความเปรี้ยวจากกรดในเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำลายเคลือบฟันได้โดยตรง ถึงแม้จะไม่มีน้ำตาลก็ตาม การจิบทีละน้อยแต่บ่อยๆ ทำให้ฟันแช่อยู่ในสภาวะเป็นกรดตลอดเวลา ซึ่งอันตรายกว่าการดื่มรวดเดียวแล้วแปรงฟันเสียอีก
-
ยาอมแก้เจ็บคอ: ถึงแม้จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ แต่ยาอมส่วนใหญ่มักมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก การอมยาอมเป็นเวลานานๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการอมลูกอมทั้งวัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุอย่างมาก
-
น้ำแข็ง: การเคี้ยวน้ำแข็งอาจเป็นเรื่องสนุกสำหรับใครหลายคน แต่การอมน้ำแข็งเป็นเวลานานๆ สามารถทำให้ฟันอ่อนแอลงได้ น้ำแข็งจะทำให้เคลือบฟันเกิดรอยร้าวเล็กๆ เมื่อรวมกับความเย็นจัด อาจทำให้ฟันเกิดอาการเสียวฟันและผุกร่อนได้ง่ายขึ้น
-
ปากกาหรือดินสอ: พฤติกรรมการอมหรือกัดปากกา/ดินสอ อาจดูเหมือนไม่มีอะไร แต่การทำเช่นนี้เป็นประจำจะทำให้ฟันสึกกร่อน เสียรูปทรง และอาจทำให้ฟันบิ่นแตกได้
ปกป้องฟันของคุณจากการ “อม” ที่ไม่พึงประสงค์
-
ลดระยะเวลาสัมผัส: หากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มรสเปรี้ยวหรืออมยาอม ควรพยายามลดระยะเวลาที่ฟันสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้น หากเป็นไปได้ ควรดื่มให้หมดภายในครั้งเดียว หรือใช้หลอดเพื่อลดการสัมผัสกับฟันโดยตรง
-
บ้วนปากด้วยน้ำเปล่า: หลังจากอมหรือดื่มอะไรที่มีน้ำตาลหรือกรด ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าเพื่อชะล้างคราบต่างๆ ออกไป
-
รออย่างน้อย 30 นาที ก่อนแปรงฟัน: หลังจากการสัมผัสกับกรด การแปรงฟันทันทีอาจทำให้เคลือบฟันที่อ่อนแออยู่แล้ว ถูกทำลายมากขึ้น ควรรออย่างน้อย 30 นาทีเพื่อให้เคลือบฟันฟื้นตัวก่อน
-
พบทันตแพทย์เป็นประจำ: การตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำจะช่วยให้คุณพบปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
การดูแลสุขภาพช่องปากไม่ใช่แค่การแปรงฟันอย่างเดียว การตระหนักถึงพฤติกรรมการ “อม” ที่ไม่ดีต่อสุขภาพฟัน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น จะช่วยให้คุณมีฟันที่แข็งแรงและสวยงามไปนานๆ
#ขนมเหนียว#น้ำอัดลม#ลูกอม หวานข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต