อาการของไข้เลือดออกที่พลาสมารั่วเป็นอย่างไร

1 การดู

เมื่อไข้เริ่มลดลง ผู้ป่วยไข้เลือดออกอาจเข้าสู่ภาวะพลาสมาซึม ซึ่งกินเวลาราว 1-2 วัน อาการจะทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด กระสับกระส่าย ชีพจรเต้นเบาแต่เร็ว ความดันช่วงต่าง (Pulse Pressure) ลดลงต่ำกว่า 20 มม.ปรอท สัญญาณเหล่านี้บ่งบอกถึงการรั่วของพลาสมาออกจากหลอดเลือด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภาวะพลาสมาซึมในไข้เลือดออก: อาการอันตรายที่ต้องเฝ้าระวัง

ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่อันตราย แม้ว่าอาการในระยะเริ่มแรกอาจดูเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ผู้ป่วยอาจเข้าสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงอย่าง “ภาวะพลาสมาซึม” ซึ่งเป็นช่วงที่พลาสมาในเลือดรั่วไหลออกจากหลอดเลือด ส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้

ภาวะพลาสมาซึมมักเกิดขึ้นหลังจากไข้เริ่มลดลง โดยทั่วไปจะกินเวลาประมาณ 1-2 วัน เป็นช่วงที่อาการของผู้ป่วยจะเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนและทรุดลงอย่างรวดเร็ว นี่คืออาการสำคัญที่บ่งบอกถึงภาวะพลาสมาซึมที่ควรสังเกต:

  • ความดันโลหิตต่ำและความดันช่วงต่าง (Pulse Pressure) ต่ำ: นี่เป็นสัญญาณสำคัญที่สุด ความดันโลหิตจะลดลงอย่างมาก และความดันช่วงต่าง (ความแตกต่างระหว่างความดันโลหิตสูงสุดและต่ำสุด) จะลดลงต่ำกว่า 20 มม.ปรอท เนื่องจากปริมาณเลือดในหลอดเลือดลดลงอย่างรวดเร็วจากการรั่วไหลของพลาสมา

  • ชีพจรเต้นเร็วและอ่อนแรง: หัวใจจะทำงานหนักขึ้นเพื่อพยายามรักษาความดันโลหิตให้คงที่ ทำให้ชีพจรเต้นเร็ว แต่แรงของชีพจรจะอ่อน จับได้ยาก

  • กระสับกระส่าย ซึมเศร้า หรือ อาจหมดสติ: เนื่องจากร่างกายขาดน้ำและออกซิเจน ผู้ป่วยอาจมีอาการกระสับกระส่าย ซึม หรือในกรณีที่รุนแรงอาจหมดสติได้

  • ผิวหนังแห้ง เย็น และซีด: การขาดน้ำจะทำให้ผิวหนังแห้ง เย็น และซีด อาจมีอาการปากแห้ง ตาโหล

  • ปัสสาวะน้อยลงหรือไม่มีปัสสาวะ: ไตจะทำงานลดลงเพื่อรักษาปริมาณน้ำในร่างกาย ทำให้ปริมาณปัสสาวะลดลงหรือไม่มีเลย

  • อาการทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน: อาการเหล่านี้พบได้บ่อยในระยะนี้ และอาจยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียของเหลวมากขึ้น

สิ่งสำคัญ: หากพบอาการเหล่านี้หลังจากไข้เลือดออกเริ่มลดลง ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยทันที การรักษาภาวะพลาสมาซึมต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ โดยอาจได้รับการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป การรักษาที่รวดเร็วและทันท่วงทีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมาก

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะพลาสมาซึมในไข้เลือดออกเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำในการวินิจฉัยหรือรักษาโรคได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมเสมอ