อาการของไข้เลือดออก ระยะที่ 3 คืออะไร

7 การดู

ไข้เลือดออกระยะวิกฤต (วันที่ 3-7) ผู้ป่วยไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว อาจมีอาการซึมลงอย่างเห็นได้ชัด มีอาการตกเลือดตามจุดต่างๆ เช่น จุดจ้ำเลือดเล็กๆ เหงือกบวม ปวดท้องรุนแรง ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และรีบพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ การดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในระยะนี้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไข้เลือดออก ระยะที่ 3: ช่วงเวลาอันตรายที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่อันตราย และระยะที่ 3 หรือระยะวิกฤตเป็นช่วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอาจเกิดขึ้นได้ ระยะนี้โดยทั่วไปจะเริ่มประมาณวันที่ 3 หลังจากเริ่มมีไข้ และสามารถดำเนินไปจนถึงประมาณวันที่ 7 สิ่งสำคัญคือการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติใดๆ

โดยทั่วไป ระยะที่ 3 ของไข้เลือดออก จะมาพร้อมกับอาการที่แสดงถึงภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ร่างกายสูญเสียเลือดมากขึ้น อาการสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ ได้แก่:

  • ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว: อาจจากระดับไข้สูงๆ มาเป็นไข้ต่ำผิดปกติ ซึ่งดูเหมือนเป็นสัญญาณที่ดี แต่แท้จริงแล้ว อาจบ่งชี้ว่ามีภาวะเลือดออกภายในร่างกายที่รุนแรง
  • ซึมลงอย่างเห็นได้ชัด: ผู้ป่วยอาจรู้สึกไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า และมีอาการง่วงนอนมากผิดปกติ อาจมีสมาธิสั้นหรือรับรู้สิ่งรอบตัวได้น้อยลง
  • ตกเลือดตามจุดต่างๆ: อาการนี้มักเกิดขึ้นในรูปของจุดจ้ำเลือดเล็กๆ กระจายทั่วตัว หรืออาจเห็นเลือดออกตามจุดอื่นๆ เช่น ลิ้น เหงือก หรือตามผิวหนัง
  • เหงือกบวม: อาการบวมของเหงือกอาจเกิดจากการอักเสบ หรือการรั่วไหลของของเหลวในร่างกาย เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการสูญเสียเลือด
  • ปวดท้องรุนแรง: ปวดท้องอย่างรุนแรงอาจเกิดจากการอักเสบของอวัยวะภายในช่องท้อง หรือการตกเลือดในช่องท้อง เป็นอาการที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก อาจมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
  • อาการทางเดินหายใจผิดปกติ: ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ได้แก่ ภาวะหัวใจล้มเหลว อาจทำให้หายใจลำบากหรือมีอาการหายใจถี่ได้

เหตุผลที่ต้องรีบพบแพทย์: อาการเหล่านี้ไม่ใช่แค่การป่วยธรรมดา แต่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะเลือดออกภายในร่างกายที่รุนแรง การรักษาที่ล่าช้าอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของผู้ป่วยและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหรือเสียชีวิตได้

สิ่งสำคัญ: บทความนี้มีไว้เพื่อการให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถแทนที่คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ได้ หากคุณหรือบุคคลที่คุณรู้จักมีอาการของไข้เลือดออก ระยะที่ 3 โปรดรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสม