อาการปวดพังผืดคืออะไร

ปลดล็อกความเจ็บปวด: ทำความรู้จักกับอาการปวดจากพังผืด (Fascial Pain)

ความเจ็บปวดเป็นสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งมาบอกเราว่าบางอย่างผิดปกติ และหนึ่งในสาเหตุที่มักถูกมองข้ามไป คือ อาการปวดที่เกิดจากพังผืด (Fascial Pain) แตกต่างจากอาการปวดกล้ามเนื้อทั่วไปหรืออาการปวดเส้นประสาทที่คุ้นเคย อาการปวดจากพังผืดนั้นซับซ้อนกว่าและจำเป็นต้องได้รับความเข้าใจอย่างถูกต้องเพื่อการรักษาที่ตรงจุด

พังผืด (Fascia) คือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ แต่แข็งแรง คล้ายกับใยแมงมุมที่แผ่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย มันห่อหุ้มกล้ามเนื้อ อวัยวะ กระดูก และเส้นประสาท ทำหน้าที่เชื่อมโยงส่วนต่างๆ ของร่างกายเข้าด้วยกัน ให้การรองรับและช่วยในการเคลื่อนไหว เมื่อพังผืดเกิดการอักเสบหรือตึงตัว มันจะก่อให้เกิดอาการปวดที่เรียกว่า “อาการปวดจากพังผืด”

อาการปวดจากพังผืดมักปรากฏในรูปของจุดกดเจ็บ (Trigger Point) ซึ่งเป็นจุดที่เมื่อถูกกดจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง จุดกดเจ็บนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บริเวณที่เจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวไปยังบริเวณใกล้เคียง เช่น ปวดไหล่ร้าวไปที่แขน หรือปวดหลังร้าวไปที่ขา ซึ่งแตกต่างจากอาการปวดเส้นประสาทที่มักกระจายเป็นแนวยาวตามแนวเส้นประสาท

สาเหตุของอาการปวดจากพังผืดนั้นมีความหลากหลาย อาจเกิดจากการบาดเจ็บ การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป การทรงตัวที่ไม่ดี ความเครียด หรือแม้กระทั่งการนั่งทำงานท่าเดิมๆ เป็นเวลานาน การขาดการเคลื่อนไหวและการยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ ก็อาจส่งผลให้พังผืดเกิดการตึงตัวและก่อให้เกิดอาการปวดได้เช่นกัน

การวินิจฉัยอาการปวดจากพังผืดนั้นต้องอาศัยการตรวจร่างกายโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เนื่องจากอาการปวดอาจคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ การตรวจจะเน้นไปที่การหาจุดกดเจ็บ ประเมินช่วงการเคลื่อนไหว และประวัติการบาดเจ็บของผู้ป่วย

การรักษาอาการปวดจากพังผืดมุ่งเน้นไปที่การคลายความตึงของพังผืดและลดอาการอักเสบ วิธีการรักษาที่นิยมใช้ ได้แก่

• การนวดบำบัด: การนวดที่เน้นการคลายจุดกดเจ็บ ช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อและพังผืด
• การยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย: ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและพังผืด ป้องกันไม่ให้เกิดการตึงตัวซ้ำ
• การฉีดยา: อาจใช้การฉีดยาแก้ปวดหรือยาต้านการอักเสบเพื่อบรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว แต่เป็นเพียงการรักษาแบบบรรเทาอาการ ไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุ
• การใช้ความร้อนหรือความเย็น: ช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการปวด

นอกจากวิธีการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลตนเองก็มีความสำคัญ เช่น การหลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ การพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ล้วนแต่ช่วยส่งเสริมการรักษาและป้องกันอาการปวดจากพังผืดได้

อาการปวดจากพังผืดแม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ดังนั้น หากคุณมีอาการปวดเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณกลับมามีชีวิตที่ปราศจากความเจ็บปวดได้อีกครั้ง