อาการปวดหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม หนาวสั่น เกิดจากอะไรได้บ้าง

2 การดู

รู้สึกไม่สบายตัว อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัวร่วมกับอาการคลื่นไส้? ลองเช็คสุขภาพหัวใจ ไต และระบบทางเดินหายใจ บางครั้งอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่ออาการปวดหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม หนาวสั่น มาพร้อมกัน: สัญญาณที่ร่างกายส่งถึงคุณ

อาการปวดหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม และหนาวสั่น เป็นกลุ่มอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และมักทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก แม้ว่าอาการเหล่านี้อาจดูเหมือนอาการป่วยไข้หวัดธรรมดา แต่บางครั้งมันอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยจากร่างกายที่กำลังบอกว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นภายใน

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการเหล่านี้ จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม และตัดสินใจได้ว่าจะต้องไปพบแพทย์เมื่อใด

สาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการปวดหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม และหนาวสั่น:

  • การติดเชื้อ:

    • ไข้หวัดใหญ่ (Influenza): เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด มักมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย และไอ
    • ไข้หวัด (Common Cold): อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่โดยทั่วไปแล้วมีความรุนแรงน้อยกว่า
    • กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ (Gastroenteritis): หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “อาหารเป็นพิษ” หรือ “ไข้ท้องเสีย” มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง
    • การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI): ในบางกรณี อาจทำให้เกิดอาการหนาวสั่น คลื่นไส้ และปวดหัวได้
  • ไมเกรน: ไม่เพียงแต่ทำให้ปวดหัวอย่างรุนแรง แต่ยังสามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม ไวต่อแสงและเสียง

  • ภาวะขาดน้ำ (Dehydration): เมื่อร่างกายขาดน้ำ อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอ่อนเพลีย

  • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia): โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน อาจทำให้เกิดอาการสั่น คลื่นไส้ ปวดหัว และอ่อนเพลีย

  • การได้รับสารพิษ: สารพิษบางชนิด เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ หรืออาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี สามารถทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้

  • ความเครียดและความวิตกกังวล: ความเครียดและความวิตกกังวลเรื้อรัง สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายและทำให้เกิดอาการทางกายภาพต่างๆ รวมถึงอาการปวดหัว คลื่นไส้ และหนาวสั่น

  • ปัญหาสุขภาพอื่นๆ:

    • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis): เป็นภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน มักมาพร้อมกับอาการไข้สูง คอแข็ง และปวดหัวอย่างรุนแรง
    • โรคไต: ไตมีหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกาย หากไตทำงานไม่ปกติ อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอ่อนเพลีย
    • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ: แม้จะไม่พบบ่อยนัก แต่อาการคลื่นไส้และเวียนศีรษะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับหัวใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์?

แม้ว่าอาการเหล่านี้อาจหายไปเองได้ภายในไม่กี่วัน แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที:

  • ปวดหัวรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
  • คอแข็ง
  • มีไข้สูง (สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส)
  • มองเห็นภาพซ้อน หรือมีการเปลี่ยนแปลงในการมองเห็น
  • สับสน หรือมีปัญหาในการพูด
  • ชัก
  • อาการแย่ลง หรือไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน

สิ่งที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • ทานอาหารอ่อนๆ: หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หรืออาหารมัน
  • ทานยาแก้ปวด: หากมีอาการปวดหัว สามารถทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟนได้
  • ประคบเย็น: หากมีอาการปวดหัว สามารถประคบเย็นบริเวณหน้าผาก หรือคอได้

ข้อควรจำ:

อาการปวดหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม และหนาวสั่น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ การวินิจฉัยที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หากคุณกังวลเกี่ยวกับอาการของคุณ

คำเตือน: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวินิจฉัย หรือรักษาโรค โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการวินิจฉัยที่ถูกต้อง