อาการป่วยแบบไหนได้นอนโรงพยาบาล

5 การดู
อาการป่วยที่อาจต้องนอนโรงพยาบาล: ภาวะฉุกเฉิน เช่น หัวใจวาย, เส้นเลือดสมองตีบ/แตก, อุบัติเหตุรุนแรง การติดเชื้อรุนแรงที่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ เช่น ปอดบวม, ไตติดเชื้อ การเจ็บป่วยเรื้อรังที่กำเริบเฉียบพลัน เช่น หอบหืดรุนแรง, เบาหวานคีโตซีส การผ่าตัดใหญ่ที่ต้องมีการดูแลหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด ภาวะทางจิตเวชที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น อาการป่วยที่ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เช่น การให้เคมีบำบัด อาการป่วยอื่นๆ ที่แพทย์พิจารณาว่าจำเป็นต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาล
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล

ภาวะเจ็บป่วยบางอย่างมีความรุนแรงและจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล อาการเหล่านี้อาจเป็นภาวะฉุกเฉินที่คุกคามชีวิต อาการติดเชื้อรุนแรง การกำเริบของโรคเรื้อรัง การผ่าตัดใหญ่ หรือภาวะทางจิตที่อาจเป็นอันตราย

ภาวะฉุกเฉิน

ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพราะอาจส่งผลถึงชีวิตหากไม่ได้รับการดูแลทันท่วงที ตัวอย่างของภาวะฉุกเฉิน ได้แก่

  • หัวใจวาย เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ อาการได้แก่ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก เหงื่อออก และใจสั่น
  • เส้นเลือดสมองตีบ/แตก เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอหรือมีเลือดออกในสมอง อาการได้แก่ อ่อนแรงหรือชาครึ่งซีกของร่างกาย พูดลำบาก และเวียนศีรษะ
  • อุบัติเหตุรุนแรง เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์หรือการตกจากที่สูง อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะ กระดูกหัก และเลือดออกภายใน

การติดเชื้อรุนแรง

การติดเชื้อรุนแรงบางอย่างอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำและการเฝ้าระวังทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล ตัวอย่าง ได้แก่

  • ปอดบวม การติดเชื้อที่เนื้อปอด อาการได้แก่ ไอมีเสมหะ มีไข้ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก และสับสน
  • ไตติดเชื้อ การติดเชื้อที่ไต อาการได้แก่ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น และมีไข้
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ การติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง อาการได้แก่ ปวดหัวรุนแรง คอแข็ง ไวต่อแสง มีไข้ และคลื่นไส้

การเจ็บป่วยเรื้อรังที่กำเริบเฉียบพลัน

โรคเรื้อรังบางโรคอาจกำเริบเฉียบพลันจนจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ตัวอย่าง ได้แก่

  • หอบหืดรุนแรง การอักเสบและตีบของทางเดินหายใจ อาการได้แก่ หายใจมีเสียงหวีด หายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก และไอ
  • เบาหวานคีโตซีส ภาวะที่เกิดจากการที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงมาก อาการได้แก่ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมีกลิ่นหวาน คลื่นไส้ อาเจียน และหายใจมีกลิ่นผลไม้
  • หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างเพียงพอ อาการได้แก่ หายใจลำบาก เท้าบวมและขาบวม อ่อนเพลีย และใจสั่น

การผ่าตัดใหญ่

การผ่าตัดใหญ่บางอย่างจำเป็นต้องมีการดูแลหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล ตัวอย่าง ได้แก่

  • การผ่าตัดหัวใจ เช่น การผ่าตัดบายพาสหัวใจ
  • การผ่าตัดสมอง เช่น การผ่าตัดเนื้องอกในสมอง
  • การผ่าตัดมะเร็ง เช่น การผ่าตัดมะเร็งปอดหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่

ภาวะทางจิตเวช

ภาวะทางจิตบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่นและจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ตัวอย่าง ได้แก่

  • โรคจิตเภท ภาวะที่ทำให้เกิดความคิดผิดปกติ หลงผิด และมีพฤติกรรมแปลกๆ
  • โรคซึมเศร้ารุนแรง ภาวะที่ทำให้เกิดความเศร้าหมองอย่างรุนแรง หดหู่ ท้อแท้ และอาจนำไปสู่ความคิดฆ่าตัวตาย
  • โรคอารมณ์สองขั้ว ภาวะที่ทำให้เกิดการแกว่งอารมณ์อย่างรุนแรงจากภาวะซึมเศร้าไปสู่ภาวะคลั่งไคล้

อาการป่วยอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมีอาการป่วยอื่นๆ ที่แพทย์อาจพิจารณาว่าจำเป็นต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาล ได้แก่

  • การให้เคมีบำบัดสำหรับการรักษามะเร็ง
  • การฟอกไตสำหรับผู้ที่มีภาวะไตวายระยะสุดท้าย
  • การให้ความชุ่มชื้นทางหลอดเลือดดำสำหรับผู้ที่มีภาวะขาดน้ำรุนแรง
  • การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายสำหรับผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยที่รักษาไม่หายและใกล้จะเสียชีวิต

หากคุณมีอาการที่เป็นไปได้ว่าจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โปรดรีบไปพบแพทย์หรือไปที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการฉุกเฉินที่คุกคามชีวิต การได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีและเหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการหายป่วยและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้