อาการมดลูกลอยตัวหลังคลอดมีอะไรบ้าง

1 การดู

หลังคลอด คุณแม่อาจรู้สึกอ่อนเพลียกว่าปกติ มีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยและอุ้งเชิงกราน บางรายอาจมีอาการปวดหลังร่วมด้วย หากมีอาการผิดปกติเช่น มีไข้สูง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ควรปรึกษาแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มดลูกลอยตัวหลังคลอด: ความเข้าใจใหม่และแนวทางการดูแล

หลังจากการเดินทางอันแสนยาวนานของการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ร่างกายของคุณแม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย หนึ่งในประเด็นที่อาจถูกมองข้ามแต่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของ “มดลูก” ซึ่งต้องปรับตัวกลับสู่สภาพเดิมหลังจากการขยายตัวอย่างมาก

บทความนี้จะพาคุณแม่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกที่เรียกว่า “มดลูกลอยตัว” หลังคลอด และเจาะลึกถึงอาการที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งแนวทางการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์

ความรู้สึก “มดลูกลอยตัว” หลังคลอด: มันคืออะไรกันแน่?

จริงๆแล้ว “มดลูกลอยตัว” ไม่ใช่คำศัพท์ทางการแพทย์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เป็นคำที่ใช้สื่อถึงความรู้สึกไม่สบายตัว หรือความรู้สึกผิดปกติบริเวณช่องท้องน้อยหลังคลอด อาจเป็นความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหว หรือไม่เข้าที่ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มดลูกกำลังหดตัวกลับสู่ขนาดปกติ

อาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกว่า “มดลูกลอยตัว”

แม้ว่าแต่ละคนอาจมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไป คุณแม่หลังคลอดที่รู้สึกว่า “มดลูกลอยตัว” อาจมีอาการเหล่านี้:

  • ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย: อาการนี้มักเกิดขึ้นเนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูก (Afterpains) เพื่อขับน้ำคาวปลาและกลับคืนสู่ขนาดเดิม ยิ่งคุณแม่ที่เคยคลอดบุตรมาแล้ว อาจรู้สึกเจ็บมากขึ้น
  • รู้สึกเหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวในท้อง: บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนมีลม หรือของเหลวเคลื่อนไหวในช่องท้อง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากกระบวนการขับน้ำคาวปลาและการปรับตัวของอวัยวะภายใน
  • ปวดหลัง: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการปรับตัวของกระดูกสันหลังหลังคลอด อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังร่วมด้วย
  • อ่อนเพลีย: การคลอดบุตรเป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานอย่างมาก ทำให้คุณแม่รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย

ความแตกต่างจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะอาการที่เกิดขึ้นจากการหดตัวของมดลูกตามปกติ กับอาการที่บ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ เช่น:

  • ไข้สูง: อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในมดลูก
  • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น: อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อในช่องคลอดหรือมดลูก
  • เลือดออกมากผิดปกติ: หากมีเลือดออกมากกว่าปกติ หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  • ปวดท้องรุนแรง: อาการปวดท้องที่รุนแรงและไม่ทุเลา อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงกว่า

แนวทางการดูแลตนเองเบื้องต้น

หากคุณแม่รู้สึกว่ามีอาการ “มดลูกลอยตัว” และไม่มีอาการที่น่ากังวลอื่นๆ สามารถดูแลตนเองเบื้องต้นได้ดังนี้:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการฟื้นตัวของร่างกาย
  • ประคบร้อน: การประคบร้อนบริเวณท้องน้อยอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหน่วงได้
  • ดื่มน้ำมากๆ: ช่วยในการขับน้ำคาวปลาและป้องกันอาการท้องผูก
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและธาตุเหล็ก เพื่อช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อและชดเชยการเสียเลือด
  • ออกกำลังกายเบาๆ: การเดินเล่นเบาๆ อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดอาการบวม
  • ให้นมบุตร: การให้นมบุตรจะช่วยกระตุ้นการหดตัวของมดลูกให้กลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์?

แม้ว่าอาการ “มดลูกลอยตัว” มักเป็นอาการปกติหลังคลอด แต่หากคุณแม่มีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที:

  • มีไข้สูง
  • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
  • เลือดออกมากผิดปกติ
  • ปวดท้องรุนแรง
  • อาการอื่นๆ ที่ทำให้รู้สึกกังวล

สรุป

การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายหลังคลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึก “มดลูกลอยตัว” เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม หากมีข้อสงสัยหรือความกังวลใดๆ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ